DSpace Repository

MICROTENSILE BOND STRENGTH OF SELF-ADHESIVE RESIN COMPOSITE TO DENTIN

Show simple item record

dc.contributor.advisor Sirivimol Srisawasdi en_US
dc.contributor.author Suparit Chantchaimongkol en_US
dc.contributor.other Chulalongkorn University. Faculty of Dentistry en_US
dc.date.accessioned 2015-06-24T06:36:53Z
dc.date.available 2015-06-24T06:36:53Z
dc.date.issued 2013 en_US
dc.identifier.uri http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/43292
dc.description Thesis (M.Sc.)--Chulalongkorn University, 2013 en_US
dc.description.abstract Objective: To evaluate the effect of pretreatment and aging process, by means of water storage, on microtensile bond strength of a self-adhesive resin composite to dentin. Materials and Methods: 72 extracted human molars were selected. Microtensile bond strength was evaluated using mid-coronal dentin. According to pretreatment methods, type of materials and water storage time, teeth were randomly divided into 4 groups; pretreatment dentin with Single Bond Universal followed by Filtek Z350 XT Flowable (control group), group without pretreatment followed by Vertise Flow, group with pretreatment with 37.5% phosphoric acid followed by Vertise Flow, and group with pretreatment with 37.5% phosphoric acid and Optibond Solo Plus followed by Vertise Flow. Each group was further randomly divided into 2 subgroups, total of 8 groups to be tested for 24 hours or 3 months. The specimens were tested for microtensile bond strength after water storage, and failure modes were recorded. Data were analyzed using two-way ANOVA and Bonferroni post hoc test (p=0.05). Results: The microtensile bond strength revealed the highest in group of dentin pretreatment with 37.5% phosphoric acid and Optibond Solo Plus followed by Vertise Flow at 24 hours (42.63±4.57 MPa) and the lowest in group without pretreatment followed by Vertise Flow at 3 months (23.39±3.88 MPa). Considering the effect of pretreatment, groups with pretreatment showed significantly higher microtensile bond strength than groups without pretreatment. In terms of influence of aging process, microtensile bond strengths were significantly decreased by water storage. Conclusion: Dentin pretreatment and water storage had effect on microtensile bond strength. en_US
dc.description.abstractalternative วัตถุประสงค์: เพื่อประเมินผลของการปรับสภาพผิวเนื้อฟันและกระบวนการเสื่อมสลายด้วยวิธีการแช่น้ำต่อกำลังแรงยึดแบบดึงระดับจุลภาคของเรซินคอมโพสิตชนิดยึดติดได้ด้วยตัวเองต่อเนื้อฟัน วิธีการทดลอง: คัดเลือกฟันกรามแท้ที่ถูกถอนจำนวน 72 ซี่ เพื่อนำมาประเมินกำลังแรงยึดแบบดึงระดับจุลภาคของเนื้อฟันที่ระดับกึ่งกลางตัวฟัน โดยคำนึงถึงวิธีการปรับสภาพผิวเนื้อฟัน ชนิดของวัสดุ และระยะเวลาในการแช่น้ำ โดยฟันจะแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ด้วยวิธีการสุ่ม ได้แก่ กลุ่มควบคุม ปรับสภาพเนื้อฟันด้วยซิงเกิล บอนด์ ยูนิเวอร์แซล ตามด้วยการบูรณะโดยใช้ฟิลเทค ซี 350 เอ็กซ์ที โฟลเอเบิล คอมโพสิต กลุ่มที่ไม่มีการปรับสภาพเนื้อฟัน ตามด้วยบูรณะโดยใช้เวอร์ทิส โฟล กลุ่มที่มีการปรับสภาพเนื้อฟันด้วยกรดฟอสฟอริกความเข้มข้น ร้อยละ 37.5 ตามด้วยการบูรณะโดยใช้เวอร์ทิส โฟล และกลุ่มที่มีปรับสภาพเนื้อฟันด้วยกรดฟอสฟอริกความเข้มข้น ร้อยละ 37.5 ร่วมกับออพติบอนด์ โซโล พลัส ตามด้วยการบูรณะโดย เวอร์ทิส โฟล หลังจากนั้นจะทำการแบ่งแต่ละกลุ่มเป็น 2 กลุ่มย่อยด้วยวิธีการสุ่ม ได้จำนวนทั้งสิ้น 8 กลุ่ม ตามระยะเวลาการแช่น้ำที่ 24 ชั่วโมงหรือ 3 เดือน ทำการทดสอบกำลังแรงยึดแบบดึงระดับจุลภาคของชิ้นงานตัวอย่าง จะทำหลังการแช่น้ำเสร็จสิ้น และจะมีการบันทึกชนิดของการล้มเหลว ข้อมูลที่ได้จะนำมาวิเคราะห์ทางสถิติด้วยสถิติความแปรปรวนแบบสองทางและเปรียบเทียบด้วยวิธีการของบอนเฟอโรนี ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 ผลการทดลอง: ค่ากำลังแรงยึดแบบดึงระดับจุลภาคสูงสุดพบในกลุ่มที่ปรับสภาพเนื้อฟันด้วยกรดฟอสฟอริกความเข้มข้น ร้อยละ 37.5 ร่วมกับออพติบอนด์ โซโล พลัส ตามด้วยการบูรณะโดย เวอร์ทิส โฟล ที่ 24 ชั่วโมง (42.63±4.57 เมกะปาสคาล) และ ค่ากำลังแรงยึดแบบดึงระดับจุลภาคต่ำสุดพบในกลุ่มที่ไม่มีการปรับสภาพเนื้อฟัน ตามด้วยบูรณะโดยใช้เวอร์ทิส โฟล ที่ 3 เดือน (23.39±3.88 เมกะปาสคาล) พิจารณาถึงผลของการปรับสภาพผิวเนื้อฟันพบว่า กลุ่มที่มีการปรับสภาพผิวเนื้อฟันจะมีค่ากำลังแรงยึดแบบดึงระดับจุลภาคสูงกว่ากลุ่มที่ไม่มีการปรับสภาพผิวเนื้อฟัน พิจารณาถึงผลของการแช่น้ำพบว่ากำลังแรงยึดแบบดึงระดับจุลภาคที่ 24 ชั่วโมง เปรียบเทียบกับ 3 เดือน จะมีค่าลดลงอย่างมีนัยสำคัญ สรุป: การปรับสภาพผิวเนื้อฟัน และการแช่น้ำมีผลต่อกำลังยึดเเบบดึงระดับจุลภาค en_US
dc.language.iso en en_US
dc.publisher Chulalongkorn University en_US
dc.relation.uri http://doi.org/10.14457/CU.the.2013.698
dc.rights Chulalongkorn University en_US
dc.subject Molars
dc.subject Fillings (Dentistry)
dc.subject ฟันกราม
dc.subject วัสดุบูรณะ (ทันตกรรม)
dc.title MICROTENSILE BOND STRENGTH OF SELF-ADHESIVE RESIN COMPOSITE TO DENTIN en_US
dc.title.alternative การศึกษากำลังแรงยึดแบบดึงระดับจุลภาคของเรซินคอมโพสิตชนิดยึดติดได้ด้วยตัวเองต่อเนื้อฟัน en_US
dc.type Thesis en_US
dc.degree.name Master of Science en_US
dc.degree.level Master's Degree en_US
dc.degree.discipline Esthetic Restorative and Implant Dentistry en_US
dc.degree.grantor Chulalongkorn University en_US
dc.email.advisor sirivimol6415@gmail.com en_US
dc.identifier.DOI 10.14457/CU.the.2013.698


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record