Abstract:
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มุ่งศึกษาเกี่ยวกับมาตรการทางกฎหมายเพื่อเยียวยาข้าราชการพลเรือนสามัญที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการบริหารงานบุคคล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการโอนย้าย แต่งตั้ง เลื่อนเงินเดือน หรือการดำเนินการทางวินัย ย่อมส่งผลต่อขวัญและกำลังใจของข้าราชการ ซึ่งสาเหตุความไม่เป็นธรรมมาจากบทบัญญัติของกฎหมายที่ไม่ชัดเจน เช่นกรณีการสอบสวนความผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงที่ยังไม่ได้กำหนดขั้นตอน กระบวนการ และระยะเวลาในการสอบสวน และปัญหาการใช้ดุลยพินิจของผู้บังคับบัญชาที่มีความลำเอียงหรือความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งสาเหตุของความไม่เป็นธรรมเหล่านี้ทำให้ข้าราชการต้องดำเนินการขอความเป็นธรรมตามกระบวนการของกฎหมาย คือพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ที่ได้กำหนดขั้นตอน ระเบียบวิธีปฏิบัติไว้ ทั้งนี้มีองค์กรที่ทำหน้าที่ในการวินิจฉัยข้อพิพาทจากการบริหารงานบุคคล 2 องค์กร คือ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) และศาลปกครอง ซึ่งแม้กระบวนการของ ก.พ.ค.และศาลปกครองมุ่งหวังที่จะผดุงความยุติธรรมให้แก่ข้าราชการแต่ยังเกิดปัญหาเกี่ยวกับการเยียวยาในบางครั้ง โดยในส่วนของ ก.พ.ค. นั้น ยังไม่มีกฎหมายในการเยียวยาที่ครอบคลุมไปจนถึงภายหลังจากการได้รับคำวินิจฉัยแล้ว ทำให้เกิดปัญหาต่อหน่วยงานของรัฐในการปฏิบัติตามคำวินิจฉัย รวมทั้งการบังคับให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยและการลงโทษเจ้าหน้าที่ผู้ที่จงใจไม่ปฏิบัติตามคำวินิจฉัย ในกรณีของศาลปกครองนั้นพบว่า มีปัญหาในการพิจารณาคดีที่ล่าช้าเนื่องจากการไม่มีบทบัญญัติที่กำหนดกรอบระยะเวลาในการพิจารณาพิพากษาคดีซึ่งแตกต่างจากองค์กร ก.พ.ค.ที่กำหนดระยะเวลาในการวินิจฉัยการอุทธรณ์และการร้องทุกข์ไว้อย่างชัดเจน ปัญหาการบังคับคดีที่หน่วยงานรัฐไม่สามารถปฏิบัติตามได้ และการลงโทษเจ้าหน้าที่ที่ไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาและปัญหาอีกกรณีที่เกิดขึ้นคือ ในปัจจุบันยังไม่มี กฎหมาย หรือระเบียบที่กำหนดเรื่องการเยียวยาภายหลังที่ข้าราชการผู้นั้นได้รับคำวินิจฉัยหรือคำสั่งแล้ว ซึ่งทำให้เกิดการฟ้องร้องเพื่อการเยียวยาที่เป็นธรรมจากข้าราชการที่ต้องการกลับคืนสู่สถานะเดิมหรือใกล้เคียงสถานะเดิมให้มากที่สุด
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้จึงเห็นควรเพิ่มมาตรการทางกฎหมายเพื่อเยียวยาข้าราชการผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการบริหารงานบุคคล โดยเห็นควรกฎหมายรองรับสิทธิที่เสียไปของข้าราชการผู้นั้น โดยที่ข้าราชการผู้นั้นไม่ต้องเป็นผู้เรียกร้องสิทธิดังกล่าวเอง และเห็นควรให้มีจัดตั้งศาลปกครองแผนกบริหารงานบุคคลขึ้นมาเพื่อพิจารณาคดีทางบุคคลโดยเฉพาะ เพื่อย่นระยะเวลาในการพิจารณาคดี เพราะข้าราชการนั้นมีข้อจำกัดเนื่องจากกรณีเกษียณอายุราชการ รวมไปถึงการพัฒนาและปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบ ในเรื่องการอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด การบังคับคดี และการลงโทษเจ้าหน้าที่ผู้ไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาด้วย เพื่อให้มาตรการทางกฎหมายในการเยียวยาเกิดผลในทางปฏิบัติได้ดียิ่งขึ้น