Abstract:
การให้สินบนแก่เจ้าพนักงานของรัฐต่างชาติในการประกอบธุรกิจระหว่างประเทศเป็นปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติที่สร้างความเสียหายอย่างกว้างขวางแก่สังคมนานาชาติ โดยที่ประเทศต่างๆ ไม่สามารถใช้มาตรการทางกฎหมายที่มีอยู่ปราบปรามได้อย่างเหมาะสม ประเทศต่างๆ จึงได้ตระหนักถึงความสำคัญของการร่วมกันต่อต้านพฤติกรรมการทุจริตรูปแบบใหม่นั้นในระดับนานาชาติ และนำมาสู่แนวคิดการบัญญัติให้การให้สินบนในการประกอบธุรกิจระหว่างประเทศความผิดอาญา ซึ่งสำหรับกรณีประเทศไทย การเติบโตของภาคการประกอบธุรกิจระหว่างประเทศในปัจจุบันได้เพิ่มช่องทางและโอกาสที่ผู้ประกอบธุรกิจไทยจะแสวงหาประโยชน์โดยจ่ายสินบนให้แก่เจ้าพนักงานของรัฐต่างชาติ แต่กฎหมายอาญาที่มีอยู่กลับมีขอบเขตบังคับใช้ได้แก่การให้สินบนแก่เจ้าพนักงานของรัฐบาลไทยเท่านั้น จึงเป็นกรณีที่ประเทศไทยไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายป้องกันและปราบปรามการกระทำทุจริตดังกล่าวได้เลยไม่ว่าในทางใด ตามหลัก “ไม่มีความผิด ไม่มีโทษ โดยไม่มีกฎหมาย”
ด้วยเหตุดังกล่าวจึงจำเป็นต้องศึกษาแนวคิดการต่อต้านการให้สินบนในการประกอบธุรกิจระหว่างประเทศโดยการบัญญัติให้เป็นความผิดอาญา โดยการเปรียบเทียบและวิเคราะห์กฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านการให้สินบนข้ามชาติและได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย ได้แก่ อนุสัญญาต่อต้านการให้สินบนในการประกอบธุรกิจของ OECD กับของสหประชาชาติ ตลอดจนกฎหมายของต่างประเทศที่มีจุดเด่นน่าสนใจเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และประเทศสิงคโปร์ เพื่อให้ได้มาซึ่งแนวทางการบัญญัติความผิดดังกล่าวที่สอดคล้องเหมาะสมระบบกฎหมายไทยในประเด็นต่างๆ ได้แก่ รูปแบบการบัญญัติความผิด ประเด็นเกี่ยวกับองค์ประกอบความผิด บทลงโทษทางอาญา และเขตอำนาจลงโทษของศาล ทั้งนี้ ความผิดฐานใหม่นั้นต้องมีเนื้อหาสอดคล้องตามแนวทางที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในระดับนานาชาติ
จากผลการศึกษาพบว่าประเทศไทยควรออกกฎหมายและบัญญัติความผิดอาญาสำหรับการให้สินบนแก่เจ้าพนักงานของรัฐต่างชาติในการประกอบธุรกิจระหว่างประเทศ รวมถึงบทบัญญัติที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประเทศไทยมีมาตรการทางกฎหมายอาญาที่เด็ดขาดและเหมาะสมสำหรับการป้องกันและปราบปรามการให้สินบนในการประกอบธุรกิจระหว่างประเทศที่กำลังเป็นปัญหาความกังวลระดับนานาชาติได้อย่างเหมาะสม