Abstract:
ปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย เป็นปัญหาสำคัญที่รัฐบาลทุกประเทศพยายามดำเนินการแก้ไขมานานแต่ไม่สามารถขจัดปัญหาได้องค์กรเอกชนขึงมีบทบาทในการร่วมแก้ปัญหา องค์การที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติสากล เป็นองค์กรพัฒนาเอกชนที่ช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัยแก่ผู้มีรายได้น้อยโดยไม่แสวงหาผลกำไร ซึ่งมีเครือข่ายดำเนินการอยู่ทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยและประเทศในกลุ่มอาเซียน การศึกษาในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและวิเคราะห์บทบาทและการดำเนินงานของมูลนิธิที่อยู่อาศัยประเทศไทย เพื่อสรุปเป็นบทเรียนและข้อเสนอแนะทั้งแก่มูลนิธิที่อยู่อาศัยประเทศไทยและองค์กรที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติสากลในกลุ่มประเทศอาเซียน ใช้วิธีการศึกษา การค้นคว้าเอกสารและการสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิฯ ศึกษาการดำเนินงานใน 4 กรณีศึกษาและการสำรวจและสัมภาษณ์ผลการดำเนินงานจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 40 ตัวอย่าง
ผลการศึกษาพบว่า มูลนิธิที่อยู่อาศัยประเทศไทย ดำเนินงานมาแล้ว 15 ปี ช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัยแก่ผู้มีรายได้น้อยในทุกภูมิภาค ไปแล้ว 9,500 ครอบครัว มีการดำเนินการ 5 ด้าน ประกอบด้วย 1) การระดมทุนจากองค์กรหน่วยงานต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อมาใช้ในการดำเนินงาน 2) การระดมอาสาสมัครเพื่อช่วยระดมทุนและลงแรงในการสร้างบ้าน 3) การคัดเลือกครอบครัวผู้รายได้น้อย ตามหลักเกณฑ์ขององค์กร 4) การออกแบบและก่อสร้างบ้านการควบคุมงบประมาณและระยะเวลาการก่อสร้าง และ 5) การติดตามการชำระคืนจากผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือ เพื่อนำเงินที่ชำระคืนสมทบกองทุนในการสร้างบ้านแก่ผู้มีรายได้น้อยหลังต่อไป จากกรณีศึกษา 4 โครงการ พบว่า มูลนิธิฯ มีการดำเนินงานใน 2 รูปแบบ คือ 1) โครงการที่อยู่อาศัยเพื่อผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเป็นโครงการที่ดำเนินการตามหลักการปกติขององค์กร คือช่วยเหลือสร้างบ้านหลังใหม่ หรือต่อเติมซ่อมแซมบ้านหลังเดิมให้กับผู้มีรายได้น้อย โดยใช้กองทุนหมุนเวียน โดยมีโครงการ จิมมี่ โรสลินน์ คาร์เตอร์ สร้างบ้าน ซึ่งเป็นกิจกรรมพิเศษที่มีการจัดสรรที่ดินให้แก่ผู้ได้รับการช่วยเหลือด้วย 2) โครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ได้แก่โครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ และโครงการช่วยเหลือผู้ประสบอุกทกภัย ซึ่งเป็นการระดมความช่วยเหลือแบบเร่งด่วนและช่วยเหลือแบบให้เปล่า ไม่มีการชำระคืน โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นครอบครัวที่ยากจนและบ้านได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติ
เมื่อประเมินผลการดำเนินงาน สามารถสรุปบทเรียนที่สามารถนำไปเป็นข้อเสนอแนะต่อองค์กรที่อยู่อาศัยเพื่อมนุษยชาติสากลในกลุ่มประเทศอาเซียนที่ดำเนินงานมาไม่นานหรือกำลังจะเริ่ม ได้แก่ เวียดนาม กัมพูชา พม่า และลาว ได้ว่า มูลนิธิที่อยู่อาศัยประเทศไทยมีข้อดีในการดำเนินงาน คือ 1) มีวัตถุประสงค์และกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนทำให้การดำเนินงานสำเร็จตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ กลุ่มผู้ได้รับการช่วยเหลือมีที่อยู่อาศัยที่ดีขึ้น 2) มีวิธีการดำเนินงานของแต่ละโครงการที่หลากหลาย ยืดหยุ่นสามารถตอบสนองต่อลักษณะที่แตกต่างของแต่ละโครงการได้ดี 3) มีขั้นตอนน้อยและไม่ซับซ้อน จึงเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกรณีการตอบสนองต่อภัยพิบัติ และมูลนิธิฯ ยังคงมีข้อจำกัดและข้อที่ควรปรับปรุง คือ 1) ควรขยายขอบเขตกลุ่มเป้าหมายให้มีระดับรายได้ครัวเรือนน้อยลง ครอบคลุมกลุ่มที่มีปัญหาเรื่องสิทธิครอบครองที่ดิน 2) ควรพัฒนาการผสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน และองค์กรพัฒนาเอกชน เพื่อเพิ่มศักยภาพขององค์กร ในเรื่อง การเลือกกลุ่มเป้าหมาย การช่วยเหลือกลุ่มที่มีรายได้น้อยลงไปกว่าที่ได้ช่วยเหลืออยู่ในปัจจุบัน การช่วยเหลือกลุ่มที่มีปัญหาเรื่องสิทธิครอบครองที่ดิน การแลกเปลี่ยนข้อมูลและความรู้ การสนับสนุนการทำงานระหว่างกัน