Abstract:
ที่มา ผู้ป่วยที่มีประวัติมะเร็งศีรษะและลำคอมีความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งหลอดอาหารเป็นมะเร็งตำแหน่งที่สอง และมีอัตราการเสียชีวิตสูงหากมิได้รับการวินิจฉัยในระยะเริ่มแรก การส่องกล้องทางเดินอาหารร่วมกับย้อมหลอดอาหารด้วยสารละลายลูกอลมีความไวสูงในการตรวจพบเยื่อบุหลอดอาหารที่ผิดปกติ แต่ขาดความจำเพาะในการวินิจฉัยมะเร็งหลอดอาหารระยะแรก เทคโนโลยีใหม่ในการส่องกล้องได้แก่ กล้องคอนโฟคอล และกล้องแนโรวแบนด์อิมเมจจิงร่วมกับระบบกำลังขยาย จึงมีศักยภาพในการช่วยวินิจฉัยมะเร็งหลอดอาหารระยะแรกในรอยโรคในหลอดอาหารที่ไม่ติดสีจากการย้อมด้วยสารละลายลูกอล
วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความจำเพาะของการใช้กล้องคอนโฟคอล ในการวินิจฉัยมะเร็งหลอดอาหารระยะแรก ในรอยโรคที่ไม่ติดสีจากการย้อมหลอดอาหารด้วยสารละลายลูกอลที่มีขนาดใหญ่กว่า 5 มิลลิเมตร ในผู้ป่วยที่มีประวัติมะเร็งศีรษะและลำคอ ชนิดสความัส
วิธีการวิจัย ผู้ป่วยที่มีมะเร็งศีรษะและลำคอชนิดสความัส ที่มารับการรักษาในสาขารังสีรักษาและมะเร็งวิทยา โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ระหว่างวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2545 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ที่ยังมีชีวิตอยู่ ที่ไม่มีอาการทางหลอดอาหาร มาเข้ารับการส่องกล้องทางเดินอาหารปกติ ตามด้วยการย้อมหลอดอาหารด้วยสารละลายลูกอลเข้มข้นร้อยละ 0.5 จากนั้นรอยโรคที่ไม่ติดสีจากการย้อมด้วยสารละลายลูกอลที่มีขนาดใหญ่กว่า 5 มิลลิเมตรจะถูกตรวจด้วยกล้องแนโรวแบนด์อิมเมจจิงร่วมกับระบบกำลังขยาย และกล้องคอนโฟคอลตามลำดับ โดยผู้ส่องกล้อง 2 คนที่เป็นอิสระต่อกัน ผู้ส่องกล้องคอนโฟคอลจะไม่ทราบผลการส่องกล้องแนโรวแบนด์อิมเมจจิง หลังจากนั้นรอยโรคดังกล่าวจะถูกตัดชิ้นเนื้อไปตรวจทางพยาธิวิทยาเพื่อเป็นมาตรฐานสำหรับการวินิจฉัย
ผลการศึกษา จากรายชื่อผู้ป่วยทั้งหมด 1,199 คน มีผู้ที่อยู่ในเกณฑ์คัดเข้า 628 คน เมื่อตัดผู้ป่วยที่ไม่สามารถติดต่อได้, ผู้ป่วยที่ปฏิเสธเข้าร่วมงานวิจัยและผู้ป่วยที่มีเกณฑ์คัดออก เหลือผู้ป่วยที่เข้าร่วมในงานวิจัยทั้งหมดจำนวน 41 คน มีอายุตั้งแต่ 23 ปีถึง 73 ปี (ค่ามัธยฐาน 61 ปี) ตรวจพบรอยโรคผิดปกติในหลอดอาหาร 8 รอยโรคจากการส่องกล้องปกติ โดยเป็นรอยโรคที่แบนราบ 5 รอยโรคและยกนูน 3 รอยโรค และเมื่อย้อมด้วยสารละลายลูกอลพบรอยโรคที่ไม่ติดสีที่มีขนาดใหญ่กว่า 5 มิลลิเมตรทั้งหมด 20 รอยโรค ในผู้ป่วย 11 คน รอยโรคมีขนาดตั้งแต่ 5 ถึง 26 มิลลิเมตร (มัธยฐาน 9 มิลลิเมตร) และอยู่ที่ตำแหน่งตั้งแต่ 15 ถึง 36 เซนติเมตรจากฟันหน้า (มัธยฐาน 25.5 เซนติเมตรจากฟันหน้า) ผลตรวจทางพยาธิวิทยาเป็นมะเร็งหลอดอาหารระยะแรก 7 รอยโรคคิดเป็นร้อยละ 35 จากรอยโรคทั้งหมด สำหรับกล้องคอนโฟคอล เมื่อใช้เกณฑ์ความผิดปกติของเซลล์ร่วมกับความผิดปกติของขดหลอดเลือดฝอยที่เยื่อบุผิว พบว่ามีค่าความไว, ความจำเพาะ, ค่าพยากรณ์ผลบวก, ค่าพยากรณ์ผลลบและค่าความแม่นยำ เท่ากับร้อยละ 83, ร้อยละ 91, ร้อยละ 83, ร้อยละ 91 และร้อยละ 88 ตามลำดับ และสำหรับกล้องแนโรวแบนด์อิมเมจจิงร่วมกับระบบกำลังขยาย การใช้เกณฑ์ลักษณะของขดหลอดเลือดฝอยที่เยื่อบุผิวมีความผิดปกติอย่างน้อย 2 ใน 4 ลักษณะ เทียบเท่ากับการจัดกลุ่มของอิโนอูเอะระดับสี่ขึ้นไป พบว่ามีค่าความไว, ความจำเพาะ, ค่าพยากรณ์ผลบวก, ค่าพยากรณ์ผลลบและค่าความแม่นยำ เท่ากับร้อยละ 85, ร้อยละ 58, ร้อยละ 54, ร้อยละ 87 และร้อยละ 68 ตามลำดับ
สรุปผลการศึกษา กล้องคอนโฟคอลมีความจำเพาะและความแม่นยำสูงกว่ากล้องแนโรวแบนด์อิมเมจจิงในการวินิจฉัยมะเร็งหลอดอาหารระยะแรก ในรอยโรคที่ไม่ติดสีจากการย้อมหลอดอาหารด้วยสารละลายลูกอลที่มีขนาดใหญ่กว่า 5 มิลลิเมตร ในผู้ป่วยที่มีประวัติมะเร็งศีรษะและลำคอ ชนิดสความัส