การระงับข้อพิพาทอากรรังนกอีแอ่นในฝ่ายปกครอง

ชญานิษฐ์ พูลสวัสดิ์

dc.contributor.advisor	ศุภลักษณ์ พินิจภูวดล
dc.contributor.advisor	ประเสริฐ โหล่วประดิษฐ์
dc.contributor.author	ชญานิษฐ์ พูลสวัสดิ์
dc.contributor.other	จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะนิติศาสตร์
dc.date.accessioned	2015-08-14T08:00:41Z
dc.date.available	2015-08-14T08:00:41Z
dc.date.issued	2555
dc.identifier.uri	http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/44281
dc.description	วิทยานิพนธ์ (น.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2555	en_US
dc.description.abstract	วัตถุประสงค์ของการวิจัยครั้งนี้เพื่อศึกษาถึงขั้นตอน วิธีการการระงับข้อพิพาทอากรรังนกอีแอ่นในฝ่ายปกครอง ตลอดถึงการคุ้มครองสิทธิของผู้อุทธรณ์ข้อพิพาทอากรรังนกอีแอ่นของประเทศไทยในปัจจุบัน เพื่อหาแนวทางในการพัฒนาปรับปรุงการระงับข้อพิพาทอากรรังนกอีแอ่นในฝ่ายปกครองในอนาคต จากการศึกษาพบว่า พระราชบัญญัติอากรรังนกอีแอ่น พ.ศ.2540 ไม่ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการการระงับข้อพิพาทอากรรังนกอีแอ่นในฝ่ายปกครอง ซึ่งการระงับข้อพิพาทในฝ่ายปกครองโดยทั่วไปจะนำพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 มาใช้บังคับกับวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองในลักษณะที่เป็นกฎและคำสั่งทางปกครอง ไม่ได้บังคับกับสัญญาสัมปทานอากรรังนกอีแอ่น ทำให้เมื่อมีข้อพิพาทเกิดขึ้นจึงต้องนำไปยุติในชั้นศาลปกครองหรือชั้นศาลภาษีอากร ส่งผลให้เกิดความยืดเยื้อต้องใช้เวลานานและต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงในการดำเนินคดี และทำให้รัฐขาดรายได้เนื่องจากไม่สามารถจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่นได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในการปรับปรุงกฎหมายจึงควรกำหนดขั้นตอนการระงับข้อพิพาทอากรรังนกอีแอ่นในฝ่ายปกครองในส่วนของการอุทธรณ์ข้อพิพาทและการคุ้มครองสิทธิของผู้อุทธรณ์ โดยให้คณะกรรมการพิจารณาจัดเก็บอากรรังนกอีแอ่นเป็นคณะกรรมการพิจารณาระงับข้อพิพาทและให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดเป็นผู้จัดเก็บอากรรังนกอีแอ่นแทน	en_US
dc.description.abstractalternative	The objective of this research is to study the procedures and methods for the resolution of administrative disputes with regard to swiftlet nest duty as well as the right protection of the swiftlet nest duty dispute appealers in Thailand at the present in order to look for the way to develop and resolve the administrative dispute with regard to swiftlet nest duty in the future. According to the study, the Swiftlet Nest Duty Act 1997 did not provide the rules and procedures for the resolution of administrative disputes with regard to Swiftlet nest duty for which the administrative dispute resolution, in general, the Administrative Practice Method Act 1996 shall be applied against the administrative practice method in the may of using the administrative rules and orders, but not against the swiftlet nest duty concession. As the result, when ever the dispute was occurred such dispute would often be ended in the administrative court or duty tax court with time consumption and substantial amount of expenses for the case proceedings, causing the administration to lose its revenues due to the discontinuance in collecting the swiftlet nest duty. To solve this problem the resolution of administrative dispute procedures regarding the swiftlet nest duty in part of the appeal and appealer’s right protection should be provided under the consideration of the Board of Directors for collecting the swiftlet nest duty and the Provincial Administrative Organization is assigned to collect the swiftlet nest duty instead.	en_US
dc.language.iso	th	en_US
dc.publisher	จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย	en_US
dc.relation.uri	http://doi.org/10.14457/CU.the.2012.492
dc.rights	จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย	en_US
dc.subject	การระงับข้อพิพาท	en_US
dc.subject	อากร -- กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ	en_US
dc.subject	พระราชบัญญัติอากรรังนกอีแอ่น พ.ศ.2540	en_US
dc.subject	Dispute resolution (Law)	en_US
dc.subject	Taxation -- Law and legislation	en_US
dc.subject	Swiftlet Nest Duty Act 1997	en_US
dc.title	การระงับข้อพิพาทอากรรังนกอีแอ่นในฝ่ายปกครอง	en_US
dc.title.alternative	The resolution of administrative disputes with regard to swiftlet nest duty	en_US
dc.type	Thesis	en_US
dc.degree.name	นิติศาสตรมหาบัณฑิต	en_US
dc.degree.level	ปริญญาโท	en_US
dc.degree.discipline	กฎหมายการเงินและภาษีอากร	en_US
dc.degree.grantor	จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย	en_US
dc.email.advisor	Supalak.P@Chula.ac.th
dc.email.advisor	ไม่มีข้อมูล
dc.identifier.DOI	10.14457/CU.the.2012.492