Abstract:
อัตราการขยายตัวของประชากรโลกหรือแม้แต่ประชากรไทยเองนั้น มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับความต้องการใช้ทรัพยากรและความต้องการด้านที่อยู่อาศัย ส่งผลให้สภาพแวดล้อมเกิดความเปลี่ยนแปลงไปจากอดีต อุณหภูมิและปัญหามลภาวะเพิ่มสูงขึ้นในเขตเมืองทำให้สภาพแวดล้อมภายนอกไม่เหมาะกับการอยู่อาศัย และไม่สามารถนำอิทธิพลของสภาพแวดล้อมภายนอกมาใช้ปรุงแต่งสภาพแวดล้อมภายในอาคารให้อาศัยอยู่อย่างสบายได้ อาคารในปัจจุบันกลับเน้นการออกแบบที่เปิดช่องเปิดของตัวอาคารด้วยกระจกมากขึ้น จากความต้องการของผู้อยู่อาศัยที่ต้องการความรู้สึกโปร่ง ได้รับแสงสว่างจากธรรมชาติ รับรู้สภาพแวดล้อมภายนอก อีกทั้งสามารถควบคุมอากาศภายในอาคารได้ แต่ผู้ใช้งานส่วนใหญ่กลับยังไม่เข้าใจการใช้กระจกของช่องเปิด ทำให้ภาระการทำความเย็นของอาคารเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากกระจกให้พลังงานแสงสว่างผ่านและเปลี่ยนเป็นความร้อนสะสมอยู่ภายในอาคารเกิดเป็นสภาวะเรือนกระจก เครื่องมือที่ช่วยในการเลือกใช้กระจกให้เหมาะสมในปัจจุบันนั้นมีน้อยและใช้งานยาก หรือแม้แต่ข้อมูลจากผู้ผลิตกระจกเองเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นที่ยากต่อการนำไปช่วยในการเลือกใช้งานกระจกให้เหมาะสมกับภาระการทำความเย็น ซึ่งต้องใช้ความรู้ในการคำนวณอย่างมาก หากมีเครื่องมือหรือโปรแกรมที่สามารถระบุได้ว่ากระจกที่ติดตั้งในแต่ละทิศทำให้เกิดค่าภาระการทำความเย็นเท่าใด ก็สามารถเข้าใจถึงความแตกต่างของกระจกแต่ละชนิด และสามารถเลือกติดตั้งกระจกในทิศที่เหมาะสมได้ ยกตัวอย่างเช่นภาระการทำความเย็นที่เกิดขึ้น 1 ตันแอร์นั้นเท่ากับการติดตั้งกระจกใส 6 มม. จำนวน 9.30 ตารางเมตร หรือเทียบเท่ากับการติดตั้งกระจกฉนวนควบคุมแสงอาทิตย์จำนวน 19.31 ตารางเมตร ซึ่งทำให้ทราบว่ากระจกใสเกิดค่าภาระการทำความเย็นที่มากกว่าประมาณ 2 เท่า ทำให้สามารถเปรียบเทียบคุณสมบัติของกระจกแต่ละชนิดได้เข้าใจมากขึ้น อีกทั้งหากมีแนวทางในการเลือกใช้กระจกที่ทำให้ให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกสบายร่วมด้วยก็จะเป็นการเพิ่มคุณค่าของการเลือกใช้ให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้นด้วย ดังนั้นหากผู้เลือกใช้มีเครื่องมือคำนวณภาระการทำความเย็นที่ใช้งานง่ายและมีแนวทางการเลือกใช้กระจกอย่างเหมาะสม จะเป็นการดีกับผู้อยู่อาศัยและท้ายที่สุดก็จะเป็นประโยชน์อย่างมากกับพลังงานที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคตอีกด้วย วิทยานิพนธ์ฉบับนี้จึงได้เขียนโปรแกรมการคำนวณโดยคอมพิวเตอร์เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสำหรับผู้ออกแบบหรือเจ้าของอาคารให้สามารถกำหนดพื้นที่ช่องเปิดที่เหมาะสมและประหยัดพลังงาน