Abstract:
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ในการศึกษา 3 ข้อ ดังนี้ 1) ประเด็นความขัดแย้งเรื่องที่ดินของชุมชนในเขตอุทยานในพื้นที่ศึกษา 2) กระบวนการการบริหารจัดการอย่างมีส่วนร่วมของชุมชนในพื้นที่ศึกษาในปัจจุบัน 3) กระบวนการการบริหารจัดการอย่างมีส่วนร่วมของชุมชนที่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง โดยวิธีการศึกษาเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพโดยใช้การสำรวจ การสังเกตแบบมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ และการสัมภาษณ์บุคคลสำคัญแบบเจาะลึกในการเก็บรวบรวมข้อมูล จากการที่ชุมชนตำบลศิลาแลงเป็นชุมชนที่อยู่บนพื้นราบติดภูเขาทำให้ชาวบ้านมีวิถีชีวิตพึ่งพาธรรมชาติจนกระทั่งเกิดปัญหาคนอพยพลงมาอาศัยอยู่มากจนเกิดปัญหาความขัดแย้งเรื่องที่ทำกินและการขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้จนมีการนำเรื่องเข้าสู่สภาตำบลเพื่อช่วยกันหาทางแก้ไขปัญหาจนมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลรักษาป่าไม้และต้นน้ำลำธารให้กลับสมบูรณ์ดังเดิม ต่อมีการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคาขึ้นทำให้มีปัญหาเรื่องพื้นที่ทับซ้อนและความไม่เข้าใจในวิถีชีวิตชาวบ้านของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานจนนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรง จนถึงการยกฐานะเป็นเทศบาลตำบลที่มีอำนาจในการบริหารจัดการทรัพยากรท้องถิ่น ทำให้จำเป็นต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาที่สามารถหาทางออกที่เหมาะสมได้ จากการศึกษาครั้งนี้พบว่าปัญหาความขัดแย้งเรื่องที่ดินในช่วงแรกเกิดจากขึ้นระหว่างชาวบ้านเนื่องจากพื้นที่ทำการเกษตรไม่เพียงพอส่งผลให้มีการบุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำและทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำตามมา ต่อมามีปัญหาเรื่องพื้นที่ทับซ้อนกันระหว่างเขตอุทยานแห่งชาติกับที่ทำการเกษตรและป่าชุมชนของชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านมีการรวมตัวเพื่อเรียกร้องสิทธิและต้องการให้ทุกฝ่ายเข้ามาร่วมมือกันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งเมื่อวิเคราะห์ด้วยทฤษฎีความขัดแย้งทำให้เห็นว่าการมีส่วนร่วมของชุมชนสามารถสร้างอำนาจในการต่อรองและเจรจากับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูล แลกเปลี่ยนความคิดเห็น มีการสร้างความรู้ความเข้าใจร่วมกัน ส่งผลให้การแก้ปัญหาเป็นไปในทิศทางที่ดีและทุกฝ่ายยอมรับกันมากขึ้น