Abstract:
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอิทธิพลของการรับรู้เหตุการณ์ในชีวิตทางลบ การนับถือศาสนา และสุขภาวะทางจิตวิญญาณที่มีต่อความสุขในบริบทพุทธธรรมในนิสิตนักศึกษา กลุ่มตัวอย่างเป็นนิสิตนักศึกษาระดับปริญญาตรี จำนวน 533 คน (ชาย 179 คน หญิง 354 คน) โดยใช้วิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการสร้างสมการโครงสร้างโดยใช้โปรแกรมลิสเรล (LISREL) ผลการวิจัยพบว่า โมเดลเชิงสาเหตุที่แสดงถึงอิทธิพลที่การรับรู้เหตุการณ์ในชีวิตทางลบ การนับถือศาสนาจากภายในและภายนอก มีต่อความสุขในบริบทพุทธธรรม โดยมีสุขภาวะทางจิตวิญญาณเป็นตัวแปรส่งผ่าน โดยโมเดลมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ (χ2 = 86.11, df = 71, p = .107, GFI = .98, RMSEA = .020) ทั้งนี้ ตัวแปรทั้งหมดในสมการสามารถอธิบายความแปรปรวนของความสุขในบริบทพุทธธรรมได้ร้อยละ 98.0 โดยที่สุขภาวะทางจิตวิญญาณมีอิทธิพลทางตรงต่อความสุขในบริบทพุทธธรรมสูงที่สุด (β = .90, p < .001) รองลงมาเป็นอิทธิพลรวมของการนับถือศาสนาจากภายนอก (β = -0.402, p < .001) การรับรู้เหตุการณ์ทางลบในชีวิต (β = -0.340, p < .001) และการนับถือศาสนาจากภายใน (β = .309, p < .001) ทั้งนี้ การนับถือศาสนาจากภายในมีอิทธิพลทางตรงต่อความสุขในบริบทพุทธธรรมอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ (β = .056, ns) และการรับรู้เหตุการณ์ในชีวิตทางลบและการนับถือศาสนาทั้งสองรูปแบบสามารถอธิบายความแปรปรวนของสุขภาวะทางจิตวิญญาณได้ร้อยละ 13.8 โดยที่การนับถือศาสนาจากภายใน มีอิทธิพลทางตรงต่อสุขภาวะทางจิตวิญญาณสูงที่สุด (β = .283, p < .001) รองลงมาเป็นการรับรู้เหตุการณ์ในชีวิตทางลบ (β = -.239, p < .001) และการนับถือศาสนาจากภายนอกมีอิทธิพลต่ำที่สุด (β = -.219, p < .001)