Abstract:
ความเป็นมา: ภาวะเยื่อบุช่องท้องอักเสบ (peritonitis) เป็นปัญหาที่สำคัญที่เป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยต้องยุติการล้างไตทางช่องท้อง การเพาะเลี้ยงเชื้อใช้ระยะเวลา 3-5 วันจึงจะทราบผลการเพาะเชื้อว่าเป็นเชื้อชนิดใด และอาจส่งผลต่อการเลือกยาปฏิชีวนะรักษาผู้ป่วย จึงได้มีการพัฒนาเทคนิคโดยใช้ 16S rDNA ในการวินิจฉัยการติดเชื้อแบคทีเรียในผู้ป่วยเยื่อบุช่องท้องอักเสบเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการวินิจฉัยโรคในผู้ป่วยต่อไป วิธีการศึกษา ตัวอย่างน้ำยาล้างไตทางช่องท้องจากผู้ป่วยเยื่อบุช่องท้องอักเสบจำนวน 102 ตัวอย่าง นำไปปั่นตกตะกอนที่ 3,000 รอบต่อนาที 15 นาที นำไปสกัดดีเอ็นเอโดยวิธีฟีนอล-คลอโรฟอร์ม ตรวจวินิจฉัยโดยใช้ 16S rDNA ด้วยวิธี conventional PCR และ Real-time PCR โดยมีการเพาะเลี้ยงเชื้อเป็น gold standard ผลการศึกษา: ตัวอย่าง 102 ตัวอย่าง นำไปตรวจวินิจฉัยด้วยวิธี conventional PCR ได้ผลเป็นบวกร้อยละ 19 เมื่อเปรียบเทียบกับผลการเพาะเลี้ยงเชื้อ มีค่าความไว ความจำเพาะร้อยละ 26.09 และ 96.97 ตามลำดับ มีค่าทำนายผลบวกและค่าทำนายผลลบร้อยละ 94.74 และ 38.55 ตามลำดับ การตรวจวินิจฉัยด้วยวิธี Real-time PCR เมื่อเปรียบเทียบกับผลการเพาะเลี้ยงเชื้อ ได้ผลเป็นบวกร้อยละ 66 มีค่าความไวความจำเพาะร้อยละ73.91 และ 51.52 ตามลำดับ มีค่าทำนายผลบวกและค่าทำนายผลลบร้อยละ 76.12 และ 48.57ตามลำดับ สรุป: จากผลการศึกษาพบว่าวิธี Real-time PCR มีค่าความไวดีกว่า conventional PCR แต่มีค่าความจำเพาะต่ำกว่า conventional PCR แต่อย่างไรก็ตามยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาเทคนิคเพื่อให้มีค่าความไว ความจำเพาะที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อประโยชน์ในการตรวจวินิจฉัยเยื่อบุผนังช่องท้อง