Abstract:
งานวิจัยนี้มุ่งศึกษาเปรียบเทียบผลของการปฏิรูประบบเลือกตั้งต่อการเปลี่ยนแปลงระบบพรรคการเมืองและการเป็นตัวแทนในรัฐสภาโดยเลือกไทยและนิวซีแลนด์เป็นกรณีศึกษา ผลการศึกษาพบว่า ในด้านระบบพรรคการเมืองนั้น การปฏิรูประบบเลือกตั้งมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงระบบพรรคการเมืองทั้งในไทยและนิวซีแลนด์ โดยไทยเปลี่ยนจากระบบหลายพรรคที่ไม่มีพรรคเด่น ไปเป็นระบบหลายพรรคที่มีพรรคเด่น และมีแนวโน้มจะกลายเป็นระบบพรรคเดี่ยวครอบงำในช่วงเวลาหนึ่ง ส่วนนิวซีแลนด์เปลี่ยนจากระบบสองพรรค ไปเป็นระบบหลายพรรคที่มีพรรคเด่น ทั้งนี้ การปฏิรูประบบเลือกตั้งมิได้เป็นเพียงปัจจัยเดียวที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระบบพรรคการเมือง แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่มีส่วนต่อการเปลี่ยนแปลงระบบพรรคการเมืองในทั้งสองประเทศด้วยเช่นกัน ได้แก่ บริบททางการเมืองและเศรษฐกิจ รวมทั้งพฤติกรรมการเลือกตั้งของประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ส่วนในด้านการเป็นตัวแทนในรัฐสภานั้น ศึกษาลักษณะการเป็นตัวแทนในด้านเพศ, อายุ, การศึกษา, และอาชีพ รวมไปถึงการเป็นตัวแทนของชนกลุ่มน้อยในกรณีของนิวซีแลนด์ พบว่า การปฏิรูประบบเลือกตั้งมีผลต่อสัดส่วนตัวแทนบางกลุ่มที่เด่นชัดคือ เพศ ที่มีสัดส่วนของผู้หญิงในรัฐสภามากขึ้น และในกรณีของนิวซีแลนด์ก็มีสัดส่วนจำนวนตัวแทนของชนกลุ่มน้อยเพิ่มขึ้น รองลงมาคือในด้านอาชีพ ซึ่งในนิวซีแลนด์มีกลุ่มอาชีพใหม่ๆ ที่ได้รับเลือกตั้งมากขึ้น แต่ในกรณีของไทยนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลง ส่วนในด้านอายุและการศึกษานั้น การปฏิรูประบบเลือกตั้งแทบไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงลักษณะการเป็นตัวแทนเป็นไปตามเจตนารมณ์ประการหนึ่งในการปฏิรูประบบเลือกตั้งในนิวซีแลนด์ ส่วนในกรณีไทยไม่ได้มีเจตนารมณ์ในเรื่องนี้อย่างชัดเจน