Abstract:
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาวะที่เหมาะสมในการกำจัดไอออนเมอร์คิวรี(II) และอาร์เซนิก(V) จากน้ำทิ้งจากกระบวนการคอนเดนเสทโดยใช้ระบบมอดูลเส้นใยกลวงแบบสัมผัส โดยมอดูลเส้นใยกลวงแบบสัมผัสประกอบมอดูลเส้นใยกลวงสองมอดูล มอดูลแรกใช้สำหรับปฏิกิริยาการสกัดและมอดูลที่สองใช้สำหรับปฏิกิริยาการนำกลับ สารละลายป้อนคือน้ำที่ปนเปื้อนมาจากกระบวนการผลิตคอนเดนเสท สารสกัดที่ใช้เป็นสารสกัดชนิดเบสคืออะลิควอตซ์สามสามหก (Aliquat336) สารละลายนำกลับที่เลือกใช้คือคือสารละลายชนิดเบส ได้แก่ ไทโอยูเรีย, โซเดียมไฮดรอกไซด์และโซเดียมไทโอซัลเฟส นอกจากนี้ยังมีน้ำกลั่นและสารละลายกรดไนตริก ที่สภาวะที่เหมาะสมที่สุดคือความเข้มข้นของกรดไฮโดรคลอริกในสารละลายป้อน 0.02 โมลาร์, ความเข้มข้นของอะลิควอตซ์สามสามหกละลายในตัวทำละลายเคโรซีน 14 เปอร์เซ็นต์ต่อปริมาตร สารละลายนำกลับไทโอยูเรียความเข้มข้น 0.07 โมลาร์ละลายในกรดไฮโดรคลอริก 0.01 โมลาร์และอัตราการไหลของสารละลายป้อนและนำกลับ 100 มิลลิลิตรต่อนาที โดยสภาวะดังกล่าวให้เปอร์เซ็นต์การสกัดและนำกลับไอออนเมอร์คิวรี(II) คือ 100 เปอร์เซ็นต์และ 47.88 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ ในขณะที่เปอร์เซ็นต์การสกัดและนำกลับไอออนอาร์เซนิก(V) คือ 78.88 เปอร์เซ็นต์และ 6.66 เปอร์เซ็นต์ การสกัดไอออนเมอร์คิวรี(II) ด้วยสารสกัดอะลิควอตซ์สามสามหกเป็นปฏิกิริยาอันดับที่หนึ่งและการสกัดไอออนอาร์เซนิก(V) เป็นปฏิกิริยาอันดับดับที่สอง ในส่วนของการคำนวณสัมประสิทธิ์การถ่ายเทมวลพบว่าสัมประสิทธ์การถ่ายเทมวลในชั้นเปลือกมีผลต่อสัมประสิทธิ์การถ่ายเทมวลรวมมากที่สุด สัมประสิทธิ์การถ่ายเทมวลในชั้นท่อมีผลต่อต่อสัมประสิทธิ์การถ่ายเทมวลรวมน้อยที่สุด โดยค่าสัมประสิทธิ์การถ่ายเทมวลรวมของปฏิกิริยาการสกัดไอออนเมอร์คิวรี(II) และอาร์เซนิก (V) คือ 3.34 × 10-6 และ 2.33 × 10-6 เมตรต่อวินาที แสดงถึงการสกัดไอออนเมอร์คิวรี(II) โดยอะลิควอตซ์สามสามหกมากกว่าการสกัดไอออนอาร์เซนิก(V)