Abstract:
ศึกษาเปรียบเทียบจำนวนตัวอสุจิที่ไหลย้อนกลับ และปริมาณตัวอสุจิในปีกมดลูกและท่อนำไข่ของสุกรสาว ในการผสมเทียมโดยใช้น้ำเชื้อเจือจางและตามด้วยน้ำยาละลายน้ำเชื้อ และการผสมเทียมโดยใช้น้ำเชื้อเจือจางเพียงอย่างเดียว ซึ่งใช้สุกรสาวสามสายพันธุ์ทั้งสิ้น 30 ตัวแบ่งเป็น 3 กลุ่ม โดยกลุ่มที่ 1 ผสมเทียมโดยใช้น้ำเชื้อเจือจางที่มีตัวอสุจิทั้งหมด 3x(10x10x10x10x10x10x10x10x10) ตัว/100 มิลลิลิตรเพียงอย่างเดียว กลุ่มที่ 2 ผสมเทียมโดยใช้น้ำเชื้อเจือจางที่มีตัวอสุจิทั้งหมด 3x(10x10x10x10x10x10x10x10x10) ตัว/50 มิลลิลิตรและตามด้วยน้ำยาละลายน้ำเชื้อ 50 มิลลิลิตรและในกลุ่มที่ 3 ผสมเทียมโดยใช้น้ำเชื้อเจือจางที่มีตัวอสุจิ ทั้งหมด 1.5x(10x10x10x10x10x10x10x10x10) ตัว/50 มิลลิลตรและตามด้วยน้ำยาละลายน้ำเชื้อ 50 มิลลิลิตร ในแต่ละกลุ่มจะผ่าตัดเพื่อนำเอามดลูก ปีกมดลูก ท่อนำไข่ และรังไข่ของสุกรทดลองภายหลังทำการผสมเทียม 3 ชั่วโมงจำนวน 5 ตัวและ 12 ชั่วโมงจำนวน 5 ตัวเพื่อชะล้างเอาตัวอสุจิมานับจากส่วนต่างๆ ผลการศึกษาค่าเฉลี่ยจำนวนตัวอสุจิทั้งหมดภายหลังการผสมเทียม 3 ชั่วโมง พบว่ามีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเฉพาะในส่วนต้นของ Isthmus โดยกลุ่มที่ 1 มีจำนวนอสุจิมากกว่ากลุ่มที่ 3 (223.9+-22.4 และ 1.0+-1.0; p<0.05) แต่กลุ่มที่ 2 ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับกลุ่มที่ 1 และ 3(p>0.05) และในส่วน Ampulla, ส่วนปลายของ Isthmus, ส่วน Utero-tubal junction (UTJ) และในส่วนต้นและปลายของปีกมดลูกพบว่า ไม่พบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยจำนวนตัวอสุจิทั้งหมดทั้ง 3 กลุ่ม (p>0.05) ค่าเฉลี่ยจำนวนตัวอสุจิทั้งหมดภายหลังการผสมเทียม 12 ชั่วโมง ไม่พบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยจำนวนตัวอสุจิทั้งหมด ในส่วนของปีกมดลูกและท่อนำไข่ทั้ง 3 กลุ่มการทดลอง (p>0.05) จากการศึกษานี้สามารถสรุปได้ว่าวิธีการผสมเทียม กลุ่มที่ 1 ไม่มีความแตกต่างกับวิธีผสมเทียมในกลุ่มที่ 2 และพบว่าจำนวนตัวอสุจิในท่อนำไข่ในกลุ่มที่ 1 มากกว่า กลุ่มที่ 2 อย่างไรก็ตามไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนจำนวนตัวอสุจิในท่อนำไข่ในกลุ่มที่ 2 มีจำนวนมากกว่าในกลุ่มที่ 3 เนื่องจากการลดจำนวนตัวอสุจิที่ใช้ในการผสมในกลุ่มที่ 3 อย่างไรก็ตามไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ