Abstract:
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนา โดยการศึกษาวิจัย ณ จุดเวลาใดเวลาหนึ่ง (Cross-sectional Study) มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการสนับสนุนทางสังคมและการปรับตัวของมารดาเด็กออทิสติก และปัจจัยที่เกี่ยวข้อง โดยเก็บข้อมูลจากมารดาเด็กออทิสติกที่อายุระหว่าง 3 ถึง 7 ปี ที่นำเด็กมารับการรักษาแบบผู้ป่วยนอก ณ สถาบันราชานุกูล จำนวน 92 ราย เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ 1) แบบสอบถามข้อมูลทั่วไปของมารดาและบุตร 2) แบบสอบถามการปรับตัวของมารดาเด็กออทิสติก พัฒนาโดย ประพา หมายสุข 3) แบบสอบถามการสนับสนุนทางสังคม The Personal Resource Questionnaire : PRQ Part II ของ Brand and Weinert แปลโดยสุภาพ ชุณวิรัตน์ ใช้สถิติเชิงพรรณนาในการอธิบายลักษณะทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ร้อยละ ความถี่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้สถิติเชิงอนุมานในการทดสอบความสัมพันธ์ของการสนับสนุนทางสังคมกับการปรับตัวของมารดาเด็กออทิสติก ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการปรับตัว และปัจจัยพยากรณ์ โดยใช้สถิติ Pearson correlation, Independent samples t-test, One way ANOVA และ Simple and Multiple Regression Analysis. ผลการศึกษา พบว่า ระดับการสนับสนุนทางสังคมและการปรับตัวของมารดาเด็กออทิสติกอยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ย 66.09 และ 153.47 ตามลำดับ ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการปรับตัวของมารดาเด็กออทิสติก คือ อายุของบุตร และอายุของมารดา โดยพบว่า มารดาที่มีบุตรอายุมากกว่าหรือเท่ากับ 6 ปี ขึ้นไป มีการปรับตัวโดยรวมและด้านความสามารถในการเลี้ยงดูบุตรมากกว่ามารดาที่มีบุตรอายุระหว่าง 4 ปี 1 เดือน ถึง 5 ปี 11 เดือน (p <0.05) มารดาที่มีบุตรอายุมากกว่าหรือเท่ากับ 6 ปี ขึ้นไป มีการปรับตัวด้านการยอมรับต่อสภาพบุตรมากกว่ามารดาที่มีบุตรอายุน้อยกว่าหรือเท่ากับ 4 ปี (p <0.05) และมารดาที่มีอายุอยู่ในช่วง 31-40 ปี มีการปรับตัวด้านการรับผิดชอบต่ออนาคตบุตรมากกว่ามารดาที่อายุน้อยกว่าหรือเท่ากับ 30 ปี (p <0.05) การสนับสนุนทางสังคมมีความสัมพันธ์กับการปรับตัวของมารดาเด็กออทิสติก (p <0.01) และการสนับสนุนทางสังคมเป็นปัจจัยที่สามารถพยากรณ์การปรับตัวของมารดา ได้ร้อยละ 17 (p <0.05) จากการศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของอายุบุตรและมารดา รวมทั้งการสนับสนุนทางสังคมที่มีผลต่อการปรับตัวของมารดาเด็กออทิสติก ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในทางปฏิบัติและงานวิจัยต่อไป