Abstract:
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนาภาคตัดขวาง ณ จุดเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาเปรียบเทียบลักษณะ ตลอดจนปัจจัยที่มีความเกี่ยวข้องของแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์และการเห็นคุณค่าในตนเอง ของนักศึกษาสายอาชีพ และนักเรียนสายสามัญ อายุ 16 -18 ปี ในปีการศึกษา 2557 แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 60 คน รวม 120 คน ซึ่งได้มาจากการวิธีการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบง่าย และใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บ ประกอบด้วย 1) แบบสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล 2) แบบสอบถามการเห็นคุณค่าของตัวเอง 3) แบบสอบถามการแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ Independent t-test, One-way ANOVA, Least Significant Difference (LSD) และ Pearson Correlation ตามความเหมาะสม ผลการศึกษาพบว่า ระดับคะแนนการเห็นคุณค่าในตนเอง พบว่า นักศึกษาสายอาชีพ และนักเรียนสายสามัญมีการเห็นคุณค่าในตนเองในระดับที่ปานกลาง และเมื่อเปรียบเทียบระดับการเห็นคุณค่าในตนเองโดยใช้สถิติ independent t-test พบว่านักเรียนสายสามัญมีระดับการเห็นคุณค่าในตนเองอยู่ในระดับที่น้อยกว่านักศึกษาสายอาชีพ และยังพบว่านักเรียนสายสามัญ ที่มีเพศแตกต่างกันมีระดับการเห็นคุณค่าในตนเองต่างกัน โดยพบว่าเพศหญิงจะเห็นคุณค่าในตนเองต่ำกว่าเพศชาย ในส่วนแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ พบว่านักศึกษาสายอาชีพ และนักเรียนสายสามัญมีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในระดับที่มาก และเมื่อเปรียบเทียบระดับแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์โดยใช้สถิติ One-way ANOVA พบว่านักเรียนสายสามัญและนักศึกษาสายอาชีพมีระดับแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ที่ไม่ต่างกัน นอกเหนือจากนั้นยังพบว่านักศึกษาสายอาชีพที่มีอาชีพของผู้ปกครองแตกต่างกันมีระดับแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ต่างกัน โดยนักศึกษาสายอาชีพที่ผู้ปกครองมีอาชีพรับราชการ มีระดับแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์น้อยกว่านักศึกษาสายอาชีพที่ผู้ปกครองมีอาชีพค้าขาย รัฐวิสาหกิจ และรับจ้าง และนักศึกษาสายอาชีพที่ผู้ปกครองมีอาชีพค้าขาย และรับจ้าง มีระดับแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์มากกว่านักศึกษาสายอาชีพที่ผู้ปกครองมีอาชีพธุรกิจส่วนตัว