Abstract:
ภายหลังจากการเกิดการขัดกันทางอาวุธที่ไม่มีลักษณะระหว่างประเทศ รัฐและฝ่ายปฏิปักษ์ภายในรัฐได้มีการจัดทำความตกลงสันติภาพเพื่อเป็นตราสารที่แสดงออกถึงการยุติความขัดแย้งเพื่อนำไปสู่สันติภาพอย่างถาวร เนื้อหาที่กำหนดในความตกลงสันติภาพจึงมีทั้งการวางระบบโครงสร้างทางอำนาจภายในรัฐ และการบรรจุหลักกฎหมายระหว่างประเทศเพื่อเป็นกรอบในการปฏิบัติตาม อีกทั้งยังได้มีการกำหนดกลไกการบังคับโดยฝ่ายที่สามอันได้แก่รัฐหรือองค์การระหว่างประเทศ จึงทำให้เกิดประเด็นถกเถียงในเรื่องสถานะและผลของความตกลงสันติภาพระหว่างรัฐและฝ่ายปฏิปักษ์ภายในรัฐ จากการค้นคว้าปรากฏว่า ความตกลงสันติภาพระหว่างรัฐและกลุ่มปฏิปักษ์ภายในรัฐอาจอยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายระหว่างประเทศได้หากความตกลงสันติภาพมีจุดเกาะเกี่ยวกับกฎหมายระหว่างประเทศกล่าวคือ สาเหตุของความขัดแย้งเป็นการใช้สิทธิในการกำหนดเจตจำนงของประชาชน หรือ ฝ่ายปฏิปักษ์ได้รับการรับรองโดยองคภาวะในทางระหว่างประเทศ ซึ่งความตกลงสันติภาพที่เกิดขึ้นมีเงื่อนไขที่เข้าองค์ประกอบสองประการข้างต้น อย่างไรก็ดีประเด็นในเรื่องสถานะและผลในทางกฎหมายระหว่างประเทศของความตกลงสันติภาพยังไม่เป็นข้อยุติ เนื่องจากได้มีคำพิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ กำหนดให้ความตกลงสันติภาพเป็นเพียงวิธีปฏิบัติการเท่านั้น ในขณะที่นักวิชาการจำนวนมากเห็นว่าความตกลงสันติภาพมีลักษณะเป็นตราสารในทางกฎหมายระหว่างประเทศได้ แต่นักวิชาการก็ยังมีความเห็นในเรื่องระบบกฎหมายที่จะนำมาปรับใช้แตกต่างกัน กล่าวคือฝ่ายหนึ่งเห็นว่าสามารถหลักกฎหมายระหว่างประเทศที่มีอยู่เดิมมาปรับใช้ได้ ในขณะที่อีกฝ่ายเห็นว่าควรมีการสร้างระบบกฎหมายระหว่างประเทศระบบใหม่มาปรับใช้กับความตกลงสันติภาพโดยเฉพาะ อย่างไรก็ดี ผู้เขียนวิทยานิพนธ์เห็นว่า ความตกลงสันติภาพมีลักษณะเป็นตราสารตามกฎหมายระหว่างประเทศ และสามารถนำหลักกฎหมายระหว่างประเทศที่มีอยู่แล้วมาบังคับใช้ได้ เพียงแต่ยังขาดประสิทธิภาพในเรื่องของการบังคับใช้ ทำให้ความตกลงสันติภาพยังมีปัญหาท้าทายที่ยังต้องพัฒนาต่อไปเพื่อให้การบังคับใช้ความตกลงสันติภาพเกิดประสิทธิภาพมากขึ้น