Abstract:
สถานศึกษาขนาดใหญ่เป็นศูนย์รวมของคณาจารย์ นิสิต และบุคลากรทั่วไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งในปัจจุบันสถานศึกษาให้ความสำคัญเรื่องของการจัดการขยะ ทั้งนี้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีการปฏิบัติการจัดการได้อย่างเป็นระบบ แต่ยังไม่ครอบคลุมในทุกด้านส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมภายในสถานที่ทิ้งขยะไม่น่าชม เกิดสัตว์รบกวน เป็นแหล่งเพาะพันธุ์พาหะนำโรค จึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้บริหารอาคารต่างๆ เพื่อเป็นการทราบถึงกระบวนการและปัญหาการจัดการขยะและส่งต่อในการเป็นแนวทางการปรับปรุงในครั้งต่อไป การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงประจักษ์ (Empirical Research) โดยผู้ทำการศึกษาใช้วิธีการเก็บข้อมูลจากการสังเกต สำรวจ สอบถามบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยในการศึกษาผู้ทำการศึกษาเลือกศึกษาทั้งหมด 19 คณะและหน่วยงานสำนักบริหารระบบกายภาพ จากการศึกษาพบว่าขยะที่พบภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมี 6 ประเภท ได้แก่ ขยะย่อยสลายได้ ขยะรีไซเคิล ขยะทั่วไป ขยะอันตราย มูลฝอยติดเชื้อ และของเสียอันตราย พบกระบวนการจัดการขยะ 2 รูปแบบ โดยรูปแบบที่ 1 มี 5 ขั้นตอน ได้แก่ การกำหนดทิ้ง การสำเลียง การคัดแยก การเก็บกัก การรวบรวม และการขนถ่ายและขนส่ง รูปแบบที่ 2 มี 6 ขั้นตอนได้แก่ การกำหนดทิ้ง การลำเลียง การรวบรวม การคัดแยก การรวบรวม และการขนถ่ายและขนส่ง พบว่าสภาพปัญหาที่พบในจุดรวบรวมขยะมี 7 ข้อ ดังนี้ 1. เกิดคราบน้ำชะมูลฝอยบริเวณรอบๆ ณ จุดรวบรวมขยะ พบร้อยละ 30% 2. เกิดขยะเกลื่อนกลาดรอบๆบริเวณ ณ จุดรวบรวมขยะ พบร้อยละ 24% 3. ขยะล้นเกลื่อนกลาด ณ จุดรวบรวมขยะ พบร้อยละ 14% 4.เกิดคราบสกปรกที่ตัวภาชนะรองรับ พบร้อยละ 10% 5. ภาชนะรองรับชำรุด/ไม่มีฝาปิดภาชนะรองรับ พบร้อยละ 10% 6. เกิดกองขยะไว้พื้นที่ภายนอกจัดเก็บ ณ จุดรวบรวมขยะ พบร้อยละ 8% 7. ลักษณะภาชนะไม่รองรับกับถุงขยะ พบร้อยละ 4% ของทั้งหมด ข้อสรุปจากการศึกษาครั้งนี้พบว่า ขยะประเภทต่างๆที่พบได้นั้นขึ้นอยู่กับหลักสูตรการเรียนการสอน โดยขยะย่อยสลายได้ ขยะรีไซเคิล ขยะทั่วไป และขยะอันตราย พบทุกกลุ่มหลักสูตร และขยะของเสียอันตรายจะพบในกลุ่มวิทยาศาสตร์กายภาพ และขยะติดเชื้อพบในกลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพ จากกระบวนการทั้งหมด ขั้นตอนการรวบรวมมีกิจกรรมและปริมาณงานมากที่สุด จึงควรได้รับการวางแผนเส้นทางการรวบรวมขยะในตามจุดวางภาชนะรองรับขยะทั้งหมดจนครบ จัดเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมต่อการปฏิบัติงานอย่างสุขอนามัย ลำดับขั้นตอนและกิจกรรมให้สอดคล้องกับการปฏิบัติงาน