Abstract:
การกระทำความผิดเกี่ยวกับภาษีสรรพสามิตกรณีการค้าบุหรี่เถื่อน เป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจประเภทหนึ่งที่มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรม โดยมีผลประโยชน์ตอบแทนจำนวนมหาศาลและอาชญากรมีวิธีการกระทำความผิดที่ซับซ้อนยากแก่การปราบปราม ซึ่งเงินที่ได้จากการกระทำความผิดดังกล่าวยังนำไปสู่การกระทำความผิดอื่นอีก ปัจจุบันกฎหมายที่ใช้บังคับกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับภาษีสรรพสามิตกรณีการค้าบุหรี่เถื่อนยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ อาชญากรจึงยังคงกระทำความผิดอย่างต่อเนื่องและเงินที่ได้จากการกระทำความผิดก็นำไปทำการฟอกเงินเพื่อนำมาใช้เป็นทุนในการกระทำความผิดครั้งต่อไป ด้วยเหตุดังกล่าว จึงมีความจำเป็นที่ต้องหามาตรการที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับภาษีสรรพสามิตกรณีการค้าบุหรี่เถื่อน แม้ผู้กระทำจะมีความผิดต้องได้รับโทษ แต่ก็ควรนำพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาบังคับใช้กับการกระทำความผิด เนื่องจากเป็นบทบัญญัติที่มีบทลงโทษในทางอาญาที่รุนแรง และมีมาตรการริบทรัพย์สินในทางแพ่งที่มีประสิทธิภาพ อันเป็นมาตรการที่สามารถตัดวงจรทางการเงินขององค์กรอาชญากรรมได้ จึงสมควรกำหนดให้การกระทำความผิดเกี่ยวกับภาษีสรรพสามิตกรณีการค้าบุหรี่เถื่อนเป็นความผิดมูลฐานตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 เพื่อนำพระราชบัญญัติดังกล่าวมาใช้ในการแก้ปัญหาการกระทำความผิดเกี่ยวกับภาษีสรรพสามิตกรณีการค้าบุหรี่เถื่อน
