Abstract:
ในปี 1998 รัฐบาลแอฟริกาใต้ได้ประกาศใช้กฎหมาย The Medicines and Related Substances Control Amendment Act 1997 มาตรา 15(c) เพื่อเพิ่มเติมกฎหมายเก่า มีวัตถุประสงค์ในการแก้ไขปัญหาราคายาต้านไวรัสเอดส์ มุ่งหมายจะเปิดโอกาสให้มีการนำเข้าซ้อนหรือตลาดสีเทาได้โดยการยอมรับหลักการระงับสิ้นไปซึ่งสิทธิระหว่างประเทศ การออกกฎหมายดังกล่าว รัฐบาลแอฟริกาใต้ถูกโจมตีโดยกลุ่มบริษัทยาว่าเป็นการละเมิดความตกลงทริปส์ จากข้อโต้แย้งดังกล่าวนำไปสู่การฟ้องร้องต่อศาลสูงของแอฟริกาใต้ในปี 2001 อย่างไรก็ตาม เพียงแค่ไม่ถึงเดือนนับจากวันที่ฟ้องร้อง กลุ่มบริษัทยาถูกแรงกดดันจากทั่วโลกรวมทั้งกลุ่มเคลื่อนไหวเกี่ยวกับโรคเอดส์ในประเทศแอฟริกาใต้หรือ TAC เรียกร้องให้ถอนฟ้องเพื่อเห็นแก่ชีวิตของผู้ป่วยโรคเอดส์จำนวนมากในแอฟริกาใต้ ประกอบกับการขาดการสนับสนุนจากประเทศมหาอำนาจและการที่ฝ่ายกลุ่มบริษัทยาไม่สามารถพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่ากฎหมายยาปี 1997 ขัดต่อความตกลงทริปส์อย่างไร คดีจึงสิ้นสุดลงที่ฝ่ายกลุ่มบริษัทยาถอนฟ้องไป โดยที่ไม่ได้มีการตัดสินว่าแท้จริงแล้วกฎหมายยาปี 1997 นั้นขัดต่อความตกลงทริปส์จริงหรือไม่ และรัฐบาลแอฟริกาใต้สามารถออกกฎหมายในลักษณะดังกล่าวได้หรือไม่ ประเด็นสำคัญของความขัดแย้งที่เกิดขึ้นคือ การขัดแย้งกันระหว่างการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาและการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนกรณียาต้านไวรัสเอดส์ในประเทศกำลังพัฒนาที่ประชาชนมีความต้องการและมีความจำเป็นต้องใช้ยาแต่ไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้ ในขณะที่การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญามีความสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ซึ่งส่งผลดีต่อสังคมในระยะยาว การที่ความตกลงทริปส์มีขึ้นจากแรงผลักดันของประเทศพัฒนาแล้วโดยที่ประเทศกำลังพัฒนารับไปใช้จนเกิดปัญหาก็เป็นอีกประเด็นที่ควรพิจารณา วิทยานิพนธ์เล่มนี้จะชี้ให้เห็นว่ากฎหมายยาปี 1997 ขัดต่อความตกลงทริปส์หรือไม่ และการปรับใช้ความตกลงทริปส์ของประเทศกำลังพัฒนาโดยศึกษาจากกรณีปัญหาการเข้าถึงยาต้านไวรัสเอดส์ของประเทศแอฟริกาใต้