Abstract:
การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยสำรวจ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการใช้เทคโนโลยีเว็บ 2.0 เพื่อสอนการรู้สารนิเทศในห้องสมุดมหาวิทยาลัย ในด้านทักษะการรู้สารนิเทศที่สอน ประเภทของเทคโนโลยีเว็บ 2.0 ที่ใช้ วิธีการใช้เทคโนโลยีเว็บ 2.0 และปัญหาในการใช้เทคโนโลยีเว็บ 2.0 รวมถึงการไม่ใช้เทคโนโลยีเว็บ 2.0 เพื่อสอนการรู้สารนิเทศในห้องสมุดมหาวิทยาลัย ในด้านสาเหตุที่ไม่ใช้ แผนการใช้ และปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจใช้ โดยใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้อำนวยการ/หัวหน้าห้องสมุด/ผู้รับผิดชอบหลักในการสอนการรู้สารสนเทศ ในห้องสมุดที่มีฐานะเป็นห้องสมุดกลางของมหาวิทยาลัย จำนวน 127 แห่ง แห่งละ 1 คน รวมทั้งหมด 127 คน ผลการศึกษา พบว่า ห้องสมุดมหาวิทยาลัยที่สอนการรู้สารนิเทศส่วนใหญ่ ไม่ใช้เทคโนโลยีเว็บ 2.0 เพื่อสอนการรู้สารนิเทศ ทั้งนี้ ในส่วนของห้องสมุดมหาวิทยาลัยที่ใช้เทคโนโลยีเว็บ 2.0 เพื่อสอนการรู้สารนิเทศนั้น ห้องสมุดมหาวิทยาลัยแทบทั้งหมด สอนมาตรฐานที่ 2: การเข้าถึงสารนิเทศที่ต้องการอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ด้านประเภทของเทคโนโลยีเว็บ 2.0 ที่ห้องสมุดมหาวิทยาลัยจำนวนมากที่สุดใช้ คือ เทคโนโลยีเครือข่ายทางสังคม สำหรับวิธีการใช้เทคโนโลยีเว็บ 2.0 นั้น การใช้สำหรับการเผยแพร่เนื้อหาที่สอน ข่าวสารเกี่ยวกับการเรียนการสอน และการให้การเข้าถึงทรัพยากร / ข้อมูลต่าง ๆ แก่ผู้เรียน เป็นวิธีการใช้เทคโนโลยีเว็บ 2.0 เพื่อสอนการรู้สารนิเทศ ที่ห้องสมุดมหาวิทยาลัยจำนวนมากที่สุดในแทบทุกประเภทของเทคโนโลยีใช้ ส่วนปัญหาในการใช้เทคโนโลยีเว็บ 2.0 นั้น ห้องสมุดมหาวิทยาลัย ประสบปัญหาในการใช้เทคโนโลยีเว็บ 2.0 ในระดับปานกลางทุกด้าน โดยปัญหาที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ปัญหาด้านการดำเนินงาน เมื่อพิจารณาปัญหาด้านการดำเนินงาน พบว่า ห้องสมุดมหาวิทยาลัย ประสบปัญหาในระดับมาก 1 ปัญหา และระดับปานกลาง 3 ปัญหา โดยปัญหาที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ห้องสมุดมีบุคลากรที่จะใช้เทคโนโลยีเว็บ 2.0 เพื่อสอนการรู้สารนิเทศไม่เพียงพอ สำหรับห้องสมุดมหาวิทยาลัยที่ไม่ใช้เทคโนโลยีเว็บ 2.0 เพื่อสอนการรู้สารนิเทศนั้น ห้องสมุดมหาวิทยาลัย จำนวนมากที่สุด ไม่ใช้เทคโนโลยีเว็บ 2.0 เพราะบุคลากรของห้องสมุดมีจำนวนจำกัด และบุคลากรที่มีอยู่มีภาระงานมากอยู่แล้ว ห้องสมุดมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ ไม่มีแผนการใช้เทคโนโลยีเว็บ 2.0 ทั้งนี้ ปัจจัยภายในห้องสมุดและปัจจัยภายนอกห้องสมุด เป็นปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจใช้ในระดับมากทั้งสองปัจจัย โดยปัจจัยที่มีค่าเฉลี่ยสูงกว่า คือ ปัจจัยภายในห้องสมุด เมื่อพิจารณาปัจจัยภายในห้องสมุด พบว่า ห้องสมุดมหาวิทยาลัย เห็นว่า ปัจจัยภายในห้องสมุดมีผลต่อการตัดสินใจใช้ในระดับมากทุกปัจจัย โดยปัจจัยที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ นโยบายของผู้บริหารห้องสมุด