Abstract:
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบกึ่งทดลอง มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาการให้ความรู้โดยใช้ตัวแบบบุคคลต่อความวิตกกังวลและพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยสูงอายุผ่าตัดต้อกระจก โดยใช้การให้ความรู้ตามทฤษฎีของ Orem (2001) มาประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรมร่วมกับการใช้ตัวแบบบุคคลตามทฤษฎีพื้นฐานทางสังคม (Social cognitive theory) ของ Bandura (1986) กลุ่มตัวอย่างคือผู้ป่วยสูงอายุผ่าตัดต้อกระจก จํานวน 40 คน แล้วสุ่มตัวอย่างเข้ากลุ่มทดลองและ กลุ่มควบคุม กลุ่มละ 20 คน กลุ่มควบคุมได้รับการพยาบาลตามปกติและกลุ่มทดลองได้รับการให้ความรู้ โดยใช้ตัวแบบบุคคล เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ การให้ความรู้โดยใช้ตัวแบบบุคคลที่ประกอบด้วย โปรแกรมการสอนและตัวแบบบุคคล เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบวัดความ วิตกกังวลและแบบวัดพฤติกรรมการดูแลตนเอง โดยได้ผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาและความเที่ยง มีค่าสัมประสิทธิ์อัลฟาของครอนบาคเท่ากับ .92 และ .93 ตามลำดับ วิเคราะห์ ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติทดสอบที วัดความแปรปรวนซ้ำแบบทางเดียว ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. ค่าเฉลี่ยของคะแนนความวิตกกังวลก่อนได้รับการให้ความรู้โดยใช้ตัวแบบบุคคล สูงกว่าหลังการให้ความรู้และโดยใช้ตัวแบบบุคคลทันที หลังผ่าตัด 24 ชั่วโมง และหลังผ่าตัด 1 สัปดาห์อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p < .05) 2. ค่าเฉลี่ยของคะแนนพฤติกรรมการดูแลตนเองหลังผ่าตัด 1 สัปดาห์ สูงกว่าหลังผ่าตัด 24 ชั่วโมงอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p < .05) 3. ค่าเฉลี่ยของคะแนนความวิตกกังวลของผู้สูงอายุที่ได้รับการให้ความรู้โดยใช้ตัวแบบบุคคลต่ำกว่าผู้สูงอายุที่ได้รับการสอนตามปกติอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p < .05) 4. ค่าเฉลี่ยของคะแนนพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้สูงอายุที่ได้รับการให้ความรู้โดยใช้ตัวแบบบุคคลสูงกว่าผู้สูงอายุที่ได้รับการสอนตามปกติอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p < .05)