Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทราบรูปแบบการสื่อสารภายในครอบครัว การเปิดรับสื่อมวลชนและทัศคติต่อสถานภาพสตรี ความสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบการสื่อสารภายในครอบครัว แบบปิดแบบเปิดและแบบปล่อย กับการเปิดรับสื่อสารมวลชน ความสัมพันธ์ระหว่างการเปิดรับสื่อมวลชนกับทัศนคติต่อสถานภาพสตรีความสัมพันธ์ระหว่างรูปแบบการสื่อสารภายในครอบครัวแบบปิด แบบเปิดและแบบปล่อย กับทัศนคติต่อสถานภาพสตรี และเพื่อเปรียบเทียบความแต่ต่างในด้านการเปิดรับสื่อมวลชน และทัศคติต่อสถานภาพสตรีของนักศึกษาต่างเพศ และนักศึกษาต่างกลุ่มหลักสูตร กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาคือ กลุ่มนักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ สังกัดทบวงมหาวิยาลัย ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 250 คน ผลการวิจัยพบว่ารูปแบบการสื่อสารภายในครอบครัวแบบปิดไม่มีความสัมพันธ์กับการเปิดรับสื่อมวลชน แต่รูปแบบการสื่อสารภายในครอบครัวแบบเปิดและแบบปล่อยมีความสัมพันธ์กับการเปิดรับสื่อมวลชนการเปิดรับสื่อมวลชนไม่มีความสัมพันธ์กับทัศนคติต่อสถานภาพสตรี รูปแบบการสื่อสารภายในครอบครัวทั้งแบบปิด แบบเปิดและแบบปล่อยไม่มีความสัมพันธ์กับทัศนคติต่อสถานภาพสตรี ในการเปรียบเทียบระหว่างเพศ พบว่านักศึกษาชายและหญิงไม่แตกต่างในด้านการเปิดรับสื่อมวลชน แต่แตกต่างกันในเรื่องทัศนคติต่อสถานภาพสตรี โดยนักศึกษาหญิงมีทัศนคติเป็นไปในทางบวกกับการยกระดับสถานภาพสตรีมากกว่านักศึกษาชายสำหรับการเปรียบเทียบระหว่างหลักสูตรพบว่า นักศึกษาในหลักสูตรที่เน้นหนักวิชาการเปิดรับสื่อมวลชนมากกว่านักศึกษาในหลักสูตรที่มีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์โดยตรง แต่นักศึกษาในหลักสูตรที่มีปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์โดยตรง มีทัศนคติเป็นไปในทางบวก กับการยกระดับสถานภาพสตรีมากกว่านักศึกษาในหลักสูตรที่เน้นหนักวิชาการและนักศึกษาในหลักสูตรที่มุ่งผลิตสินค้าและให้บริการ