DSpace Repository

การตรวจติดตามระดับยาในเลือดของยาต้านชัก ณ โรงพยาบาลตารวจ

Show simple item record

dc.contributor.author วิสิฏฐ์ สุรวดี
dc.contributor.author สุภัควดี ตันชีวะวงศ์
dc.contributor.author อุษาพร ศรีสุวัจฉรีย์
dc.contributor.other จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะเภสัชศาสตร์
dc.date.accessioned 2016-06-12T00:55:54Z
dc.date.available 2016-06-12T00:55:54Z
dc.date.issued 2555
dc.identifier.other Sepr 5/55 ค1.14
dc.identifier.uri http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/49013
dc.description.abstract การศึกษานี้เป็นการศึกษาแบบเก็บข้อมูลย้อนหลังของผู้ป่วยในที่มีการใช้ยาต้านชักและมีการตรวจติดตามระดับยาในเลือดที่โรงพยาบาลตารวจใน 1 ปี (มิถุนายน พ.ศ.2554 – พฤษภาคม พ.ศ. 2555) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) รูปแบบการให้ยาต้านชัก 2) แบบแผนการตรวจวัดระดับยาในเลือด 3) อันตรกิริยาระหว่างยาต้านชักกับยาอื่นที่ใช้ร่วมกัน 4) อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาต้านชัก และ 5) มูลค่าของค่าใช้จ่ายในการส่งตรวจ จากการศึกษาผู้ป่วยที่ได้รับยาต้านชัก (phenytoin, valproic acid, carbamazepine และ phenobarbital) จานวน 522 คน เป็นผู้ป่วยในที่มีการตรวจวัดระดับยาในเลือด 57 คน (10.9%) สามารถสืบค้นข้อมูลจากเวชระเบียนได้ทั้งหมด 46 คน เป็นเพศชาย 21 คน เพศหญิง 25 คน มีอายุตั้งแต่แรกเกิด ถึง 98 ปี โดยมีอายุเฉลี่ย 57.8 ± 23.4 ปี สาเหตุที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล มาด้วยอาการชักกาเริบ 24 คน (52.2%) โรคเกี่ยวกับความผิดปกติทางสมอง 12 คน (27.1%) และความผิดปกติอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง 10 คน (21.7%) ยาต้านชักที่มีการตรวจวัดระดับยาในเลือด ได้แก่ phenytoin, valproic acid และ phenobarbital รูปแบบการให้ยาต้านชักที่พบมากที่สุด คือ phenytoin ชนิดแคปซูล 100 มิลลิกรัม วันละ 3 เม็ด ก่อนนอน คิดเป็นขนาดยา 300 มิลลิกรัมต่อวัน จานวน 13 คน (28.3%) การตรวจวัดระดับยาในเลือดจากจานวนทั้งหมด 71 ครั้ง พบสาเหตุการตรวจวัดระดับยา ได้แก่ สงสัยระดับยาต่ากว่าช่วงที่ให้ผลการรักษา 38 ครั้ง (53.5%) สงสัยการเกิดอาการพิษจากยา 1 ครั้ง (1.4%) และสาเหตุอื่นๆ 32 ครั้ง (45.1%) เวลาที่เก็บตัวอย่างเลือดมีการบันทึกอย่างชัดเจน 4 ครั้ง (5.6%) ไม่ชัดเจน 67 ครั้ง (94.4%) ซึ่งเป็นเวลาที่เก็บก่อนให้ยาในครั้งถัดไป ระยะเวลาที่ใช้ในการตรวจวัดระดับยาในเลือดนับตั้งแต่มีการสั่งตรวจวัดจนถึงการพิมพ์ผลของระดับยา พบว่าใช้เวลาน้อยกว่า 1 วัน 53 ครั้ง (74.6%) 1 ถึง 2 วัน 8 ครั้ง (11.3%) และมากกว่า 2 วัน 2 ครั้ง (2.8%) การปรับขนาดยาที่สอดคล้องกับผลของระดับยาในเลือดซึ่งไม่อยู่ในช่วงที่ให้ผลการรักษา 21 ครั้ง (42.9%) อันตรกิริยาที่มีนัยสาคัญทางคลินิกระดับ 1 ระหว่างยาต้านชักกับยาอื่นที่ใช้ร่วมกัน คือ การใช้ยา phenytoin ร่วมกับ dopamine เป็นจานวน 2 ครั้ง อาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาต้านชักพบเพียง 1 คน ที่มาโรงพยาบาลด้วยอาการพิษจากยา phenytoin ในด้านมูลค่าที่ใช้ในการส่งตรวจระดับยาต้านชักต่อปี คิดเป็นเงิน 16,400 บาท ผลการศึกษานี้เป็นข้อมูลการตรวจติดตามระดับยาในเลือดซึ่งยังไม่มีการมอบหมายให้เภสัชกรเข้าไปดูแลการให้บริการ สามารถใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานประกอบการให้บริการการตรวจติดตามระดับยาในเลือดของกลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลตารวจต่อไป en_US
dc.language.iso th en_US
dc.publisher คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.rights จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.subject ผู้ป่วย en_US
dc.subject ยาต้านชัก en_US
dc.title การตรวจติดตามระดับยาในเลือดของยาต้านชัก ณ โรงพยาบาลตารวจ en_US
dc.title.alternative Therapeutic drug monitoring of antiepileptic drugs at Police general hospital en_US
dc.type Senior Project en_US
dc.subject.keyword โรงพยาบาลตำรวจ en_US


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

  • Pharm - Senior projects [100]
    โครงการปริญญานิพนธ์ คณะเภสัชศาสตร์

Show simple item record