Abstract:
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษารูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยภูมิหลัง ปัจจัยทัศนคติ และปัจจัยการคล้อยตามกลุ่มอ้างอิง กับความต้องการมีบุตรของสตรีโสดไทยที่มีอายุระหว่าง 20-44 ปี ข้อมูลจากโครงการวิจัย การศึกษาภาวะสมรสและทัศนคติต่อการสมรสของสตรีไทยในสังคมยุคใหม่ ระยะที่ 1 ดำเนินการในช่วงปี พ.ศ. 2552-2553 ขนาดตัวอย่างของการวิจัยครั้งนี้คือ สตรีโสดไทย ที่มีอายุ 20-44 ปี และทำงานในระบบจำนวนทั้งสิ้น 1,186 ราย ผลการวิจัยพบว่าทฤษฎีการกระทำด้วยเหตุผลกับข้อมูลเชิงประจักษ์จากกลุ่มตัวอย่างมีความสอดคล้องกันดี เมื่อพิจารณาค่า Chi-square (X2) ค่า Root mean square error of approximation (RMSEA) และ ค่า Comparative fit index (CFI) เท่ากับ 10.79, 0.01 และ 0.99 ตามลำดับ ผลการวิจัยพบว่า อายุ การศึกษา ทัศนคติต่อการสมรส ทัศนคติต่อการมีบุตร และการคล้อยตามกลุ่มอ้างอิง เป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความต้องการมีบุตรที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 โดยทัศนคติต่อการสมรส และทัศนคติต่อการมีบุตร มีอิทธิพลทางตรงต่อความต้องการมีบุตร ในขณะที่อายุ การศึกษา และการคล้อยตามกลุ่มอ้างอิง มีอิทธิพลทางอ้อมต่อความต้องการมีบุตร โดยมีอิทธิพลผ่านทางทัศนคติต่อการสมรส และทัศนคติต่อการมีบุตร และผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพลสูงสุดต่อความต้องการมีบุตรของสตรีโสดไทย อายุ 20-44 ปีที่ทำงานในระบบ คือ ทัศนคติต่อการสมรส ทัศนคติต่อการมีบุตร อายุ การคล้อยตามกลุ่มอ้างอิง และการศึกษา ตามลำดับ