Abstract:
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มุ่งศึกษาแนวทางในการตีความคำว่า “อุบัติเหตุ” กรณีคนโดยสารตายหรือได้รับบาดเจ็บในระหว่างการรับขนระหว่างประเทศทางอากาศตามข้อ 17 แห่งอนุสัญญาเพื่อการรวบรวมกฎเกณฑ์บางประการเกี่ยวกับการรับขนระหว่างประเทศทางอากาศ หรืออนุสัญญามอนตริออล ค.ศ. 1999 เนื่องจาก “อุบัติเหตุ” ถือเป็นองค์ประกอบที่กำหนดความรับผิดของผู้ขนส่งตามอนุสัญญาฯ แต่กลับไม่มีการบัญญัติคำนิยามของคำว่า “อุบัติเหตุ” ว่ามีความหมายอย่างไร กรณีจึงก่อให้เกิดปัญหาความไม่แน่นอนของกฎหมาย เพราะศาลของรัฐภาคีอนุสัญญาแต่ละรัฐต่างก็ตีความคำว่า “อุบัติเหตุ” อย่างเอกเทศตามอำนาจอธิปไตยของตน ซึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อทั้งผู้ขนส่งทางอากาศและคนโดยสาร ตลอดจนความไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของกฎเกณฑ์รับขนทางอากาศระหว่างประเทศ ปัญหาความไม่ชัดเจนดังกล่าว จึงมีความจำเป็นที่จะต้องศึกษาแนวทางการตีความคำว่า “อุบัติเหตุ” เพื่อให้ผู้ขนส่งทางอากาศและคนโดยสารเข้าใจสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดของตน ประการสำคัญที่สุดคือเพื่อสร้างแนวทางตีความที่มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันต่อไป จากการศึกษาพบว่า เพื่อที่จะหาความหมายที่แท้จริงของคำว่า “อุบัติเหตุ” ตามข้อ 17 ตามเจตนารมณ์ของอนุสัญญามอนตริออล ค.ศ. 1999 นั้น ควรตีความโดยใช้หลักเกณฑ์การตีความสนธิสัญญาตามอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยกฎหมายสนธิสัญญา ข้อ 31 และ ข้อ 32 โดยการพิจารณาจากบทบัญญัติ บริบทในอนุสัญญาฯ เอกสารงานเตรียมร่างอนุสัญญาฯ ตลอดจนคำพิพากษาของศาลภายในรัฐภาคี ซึ่งได้ให้หลักเกณฑ์เพื่อใช้เป็นแนวทางในการตีความความหมายของคำว่า “อุบัติเหตุ” ได้ การตีความคำว่า “อุบัติเหตุ” ตามมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติการรับขนทางอากาศระหว่าประเทศ พ.ศ. 2558 ในกรณีของประเทศไทยนั้น ควรตีความโดยมุ่งถือถ้อยคำอันเป็นถ้อยคำทางเทคนิคตามเจตนารมณ์ของอนุสัญญามอนตริออล ค.ศ. 1999 และ ตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติการรับขนทางอากาศระหว่างประเทศ พ.ศ. 2558 โดยพิจารณาจากตัวบท บริบท เอกสารงานเตรียมร่างของอนุสัญญาฯ รายงานการประชุมการยกร่างพระราชบัญญัติฯ และค้นหาความหมายซึ่งอาจศึกษาได้จากคำพิพากษาของศาลต่างประเทศอันทรงคุณค่า