Abstract:
ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในปัจจุบัน ทำให้ระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและชีวิตประจำวันอย่างยิ่ง โดยเฉพาะปัญหาการปลอมบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงและแผ่ขยายเป็นเครือข่ายอาชญากรรม เนื่องมาจากเงินหมุนเวียนในระบบการชำระเงินผ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่มีมูลค่าสูงนี้เอง ผู้กระทำความผิดจึงมักใช้กลวิธีและเทคนิคใหม่ ๆ ในการกระทำความผิด โดยนำเงินหรือทรัพย์สินที่ได้ไปโอนหรือเปลี่ยนสภาพเสมือนเป็นเงินที่ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อปกปิดแหล่งที่มาที่แท้จริง หรือเรียกว่า การฟอกเงิน เพื่อให้ยากต่อการติดตามและบังคับใช้กฎหมายซึ่งสร้างความเสียหายต่อระบบการเงิน เศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศรวมถึงทั่วโลก ปัญหาการปลอมบัตรอิเล็กทรอนิกส์จึงเปรียบเป็นภัยคุกคามที่ไม่อาจนิ่งเฉย การบังคับใช้กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินจำต้องบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับมาตรการทางกฎหมายที่เหมาะสมตามสถานการณ์ กอปรกับธนาคาร สถาบันการเงิน และผู้ประกอบธุรกิจบัตรอิเล็กทรอนิกส์ จะต้องมีมาตรการเกี่ยวกับความปลอดภัยของบัตรอิเล็กทรอนิกส์มาใช้บังคับให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และส่งเสริมการพัฒนาบุคลการที่มีความรู้ความชำนาญในเรื่องการปลอมบัตรอิเล็กทรอนิกส์และการฟอกเงินโดยเฉพาะ รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งในระดับประเทศและระหว่างประเทศ เพื่อช่วยขจัดปัญหาการฟอกเงินเกี่ยวกับการปลอมบัตรอิเล็กทรอนิกส์ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนต่อไป