Abstract:
พระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ 2542 มาตรา 29 และมาตรา 25 (4) มิได้กำหนดหลักเกณฑ์พฤติกรรมที่เข้าข่ายเป็นความผิดอย่างชัดเจน มีเพียงแนวปฏิบัติที่ออกโดยคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าที่ใช้เป็นแนวทางในการพิจารณาพฤติกรรมที่อาจเข้าข่ายการกระทำความผิดซึ่งไม่มีสถานะเป็นกฎหมาย ทำให้เกิดปัญหาว่าการกระทำใดเข้าข่ายเป็นความผิดตาม มาตรา 29 และมาตรา 25 (4) ผลสรุปจากการศึกษาทำให้ผู้วิจัยมีความเห็นว่าจากการที่ทั้งมาตรา 29 และมาตรา 25 (4) ยังไม่มีความชัดเจนว่าการกระทำตามกรณีศึกษากล่าวคือ การจัดรายการส่งเสริมการขายโดยใช้และอ้างอิงชื่อของคู่แข่งในการโฆษณาและการใช้เครื่องมือในการส่งเสริมการขายของคู่แข่งมาใช้ในการจัดรายการส่งเสริมการขายของตนเองเป็นความผิดตามมาตราดังกล่าวหรือไม่ โดยมีแนวความเห็นของนักวิชาการแบ่งเป็น 2 แนวความเห็น โดยแนวความเห็นแรกเห็นว่าพฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นความผิด เนื่องจากไม่มีความจำเป็นที่ต้องจัดรายการส่งเสริมการขายโดยอ้างอิงชื่อ และใช้เครื่องมือในการส่งเสริมการขายของผู้อื่น และแนวความเห็นที่สองเห็นว่าพฤติกรรมดังกล่าวมิใช่การกระทำที่เป็นความผิด เป็นเพียงกลยุทธ์การแข่งขันอย่างหนึ่งที่มุ่งเน้นแข่งขันด้านราคา และทำให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์ ดังนั้น เพื่อให้เกิดความชัดเจนและเกิดประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายแข่งขันทางการค้ามากขึ้น จึงควรปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรมีการกำหนดคำนิยามของคำว่าการกระทำอันมิใช่การแข่งขันโดยเสรีอย่างเป็นธรรมและคำว่าการแทรกแซงให้ชัดเจน และทำให้แนวปฏิบัติมีสถานะเป็นกฎหมาย และเพิ่มอำนาจให้คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้ามีอำนาจกำหนดลักษณะพฤติกรรมที่คณะกรรมการเห็นว่าเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดได้เพื่อให้ครอบคลุมลักษณะพฤติกรรมความผิดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต