Abstract:
Sustainable development นำมาใช้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่า โครงการของ บริษัท กานดา พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด ได้เริ่มวางแนวทางที่จะนำการประหยัดพลังงานตามแนวคิดดังกล่าวมาใช้ โดยการติดตั้ง ระบบไฟฟ้าแสงสว่างประหยัดพลังงาน โซล่าเซลล์ เข้าไว้ในสาธารณูปโภคส่วนกลางของโครงการ ดังนั้นผู้วิจัยสนใจที่จะศึกษาว่าผู้อยู่อาศัยมีการรับรู้ ในการนำระบบนี้มาใช้ เพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้พัฒนาโครงการรายอื่นที่สนใจได้มีการเตรียมข้อมูลและสื่อสารกับผู้ซื้อโครงการต่อไปในอนาคต จากการศึกษาพบว่า กลุ่มประชากรตัวอย่างส่วนใหญ่มีสมาชิกในครัวเรือนโดยเฉลี่ย 3 คน ที่อยู่อาศัยมีลักษณะเป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ พื้นที่ใช้สอยเฉลี่ย 100 ตารางเมตร โดยส่วนใหญ่มีสถานะเป็นเจ้าบ้านเอง ประกอบด้วยจำนวนบ้าน 268 หลังคาเรือน พื้นที่รวมทั้งโครงการ 129 ไร่ 3 งาน 66 ตารางวา แบ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลาง 40 ไร่ 2 งาน 48 ตารางวา คิดเป็น 31.2 % ของพื้นที่โครงการทั้งหมด โดยมีถนนโครงการซึ่งเป็นส่วนติดตั้งระบบไฟฟ้าแสงสว่างสำหรับถนนในระบบประหยัดพลังงานติดตั้งอยู่ในโครงการ ไฟถนนโซล่าเซลล์ (Solar Street Light) สามารถผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์โดยไม่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าจากระบบปกติ สามารถตั้งเวลาการเปิดปิดเพื่อใช้แสงสว่างได้ในแง่ค่าใช้จ่ายของค่าไฟฟ้าแสงสว่างในโครงการจึงเกิดขึ้นน้อยมาก แต่ขณะเดียวกันการบำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้ามีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากระบบไฟฟ้าปกติ 2 % โดยส่วนสำคัญอยู่ที่การเปลี่ยนแบตเตอร์รี่และหลอดไฟ LED ที่ต้องเป็นทุก 2 ปี และ 50,000 ชั่วโมงตามลำดับ จากการพิจารณาค่าใช้จ่ายเหล่านี้มีความจำเป็นต้องเพิ่มเข้าไปยังการเก็บค่าใช้จ่ายส่วนกลางเพื่อบำรุงรักษาระบบ ผลการศึกษาการรับรู้ของผู้อยู่อาศัยพบว่า กลุ่มผู้อยู่อาศัยโครงการบ้านเดี่ยว(โครงการไอลีฟ พาร์ค) ถึง 97% มีการรับรู้จากการสังเกตการติดตั้งระบบไฟฟ้าประหยัดพลังงานในโครงการและจากการให้ข้อมูลของเจ้าหน้าที่โครงการ กลุ่มผู้อยู่อาศัยโครงการทาวน์เฮ้าส์(โครงการไอลีฟ ทาวน์) มี 85% รับรู้จากการสังเกตการติดตั้งระบบไฟฟ้าประหยัดพลังงานในโครงการและจากการให้ข้อมูลของเจ้าหน้าที่โครงการ ระดับการรับรู้ผู้อยู่อาศัยรู้ถึงการทำงานและอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าประหยัดพลังงานบ้างเล็กน้อย โครงการบ้านเดี่ยว 64% โครงการทาวน์เฮ้าส์ 57.5% โดยกลุ่มที่รับรู้ต้องการต้องการข้อมูลของระบบไฟฟ้าประหยัดพลังงานด้านค่าใช้จ่าย ค่าบำรุงรักษาอุปกรณ์ที่เกิดขึ้นก่อนส่งมอบให้ผู้อยู่อาศัยดูแลต่อไป ส่วนกลุ่มที่ไม่ทราบว่ามีการใช้ระบบดังกล่าวกับโครงการ ต้องการข้อมูลของระบบไฟฟ้าดังกล่าวเพิ่มเติม โดยกลุ่มโครงการบ้านเดี่ยว ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม 100% กลุ่มโครงการทาวน์เฮ้าส์ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม 71.4% โดยทางผู้ประกอบการต้องมีการให้ความรู้ด้านการใช้งานและการบำรุงรักษาให้กับผู้อยู่อาศัย เพื่อเตรียมพร้อมในการดูแลรักษาต่อไปในอนาคต กลุ่มผู้อยู่อาศัยบ้านเดี่ยว มีความเห็นในเรื่องของค่าใช้จ่ายที่แพงกว่าเล็กน้อยในปัจจุบันว่า สามารถยอมรับการจ่ายค่าส่วนกลางที่เพิ่มขึ้นในระดับที่เหมาะสมจากค่าไฟฟ้าระบบปกติ กลุ่มผู้อยู่อาศัยบ้านทาวน์เฮ้าส์ มีความเห็นในเรื่องค่าใช้จ่ายที่แพงกว่าเล็กน้อยในปัจจุบันว่า อยากให้มีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าหรือเท่ากันกับค่าไฟฟ้าปกติ ข้อเสนอแนะด้านการรับรู้ของผู้อยู่อาศัย ผลวิจัยพบว่า ผู้อยู่อาศัยมีการรับรู้จากการสังเกตจากการวางผังโครงการและการแนะนำระบบจากเจ้าหน้าที่โครงการเป็นหลัก ประเด็นที่ผู้อยู่อาศัยคำนึงมากที่สุดคือเรื่องค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นและการดูแลรักษาระบบไฟฟ้าประหยัดพลังงาน โดยทางผู้ประกอบการเองต้องมีการให้ข้อมูลด้านรายละเอียดเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าประหยัดพลังงาน ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นและการบำรุงรักษาอุปกรณ์ที่เกิดขึ้นของระบบไฟฟ้าประหยัดพลังงาน เมื่อเทียบกับระบบไฟฟ้าปกติให้กับผู้ซื้อโครงการตั้งแต่การขายโครงการ เพื่อให้เกิดการรับรู้และความพึงพอใจต่อการพัฒนาโครงการในลักษณะการประหยัดพลังงาน ซึ่งจะก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการยอมรับและการจัดเก็บค่าใช้จ่ายส่วนกลางที่ผู้อยู่อาศัยมีความพึงพอใจ สามารถนำการดำเนินโครงการลักษณะนี้ต่อไป