Abstract:
ในวงวิชาการปรัชญาจีนที่ผ่านมามักจะศึกษามโนทัศน์ความกลมกลืน (เหอ) ในปรัชญาขงจื่อ จากแง่มุมทางจักรวาลวิทยาหรือไม่ก็อธิบายมโนทัศน์ความกลมกลืนราวกับว่ามีแต่มิติของความสงบราบเรียบที่มีแต่ความบรรสานสอดคล้องลงตัวเข้ากันได้ดี วิทยานิพนธ์ฉบับนี้แสดงให้เห็นว่ามโนทัศน์ความกลมกลืนของขงจื่อมีความตึงแย้งแฝงอยู่อย่างมีนัยสำคัญ ความตึงแย้งในที่นี้ก็คือ สภาวะที่องค์ประกอบที่แตกต่างหลากหลาย มีความแปร่งแย้งไม่ลงรอยกัน แต่ก็ยังรักษาความสัมพันธ์ที่กลมกลืนเกื้อหนุนกันขององค์ประกอบต่างๆ ไว้ได้ วิทยานิพนธ์นี้ศึกษาความตึงแย้งในกระบวนการสร้างความกลมกลืนในระดับต่างๆ ตั้งแต่ระดับภายในสังคมมนุษย์ไปจนถึงการสร้างความกลมกลืนระหว่างมนุษย์กับสวรรค์ ผลการศึกษาพบว่ามีความตึงแย้งอยู่ในความสัมพันธ์ที่กลมกลืนในทุกระดับความสัมพันธ์การเห็นการมีอยู่ของความตึงแย้งภายในความกลมกลืนช่วยให้เข้าใจมโนทัศน์ความกลมกลืนของขงจื่อได้อย่างรอบด้านมากขึ้นว่า มโนทัศน์ความกลมกลืนมีการปรับตัว มีพลวัต และมีการปรับแต่งองค์ประกอบที่แตกต่างหลากหลายให้อยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืนอยู่อย่างต่อเนื่อง จึงเห็นได้ว่าความตึงแย้งมีบทบาทอันสำคัญยิ่งต่อมโนทัศน์ความกลมกลืน กล่าวคือ ความตึงแย้งเป็นเงื่อนไขเบื้องต้นที่นำไปสู่การมีความกลมกลืนที่มีมิติของความสงบราบเรียบ กระนั้นก็ตามความกลมกลืนที่มีความสงบราบเรียบก็ไม่ใช่สภาวะอันมั่นคงถาวร แต่เป็นสภาวะที่ดำเนินไปในกระบวนการสร้างความกลมกลืนที่กำลังขยายตัวออกไป การเข้าใจมโนทัศน์ความกลมกลืนที่มีความตึงแย้งนี้ส่งผลไปถึงการเข้าใจจริยศาสตร์ของขงจื่อได้ดีขึ้นว่า จริยศาสตร์ของขงจื่อมีลักษณะปลายเปิด