Abstract:
ในหลายประเทศรวมถึงประเทศไทย การปนเปื้อนของสารปนเปื้อนในน้ำใต้ดินเป็นปัญหาที่สำคัญต่อสิ่งแวดล้อม สารละลายจากกระบวนการซักล้างและสารอินทรีย์ระเหยซึ่งเป็นสารจำพวกสารไฮโดรคาร์บอนเป็นสารปนเปื้อนที่พบได้บ่อยในน้ำใต้ดิน ในประเทศไทยสารอินทรีย์ระเหยเป็นสารที่ทราบกันเป็นอย่างดีว่ามีอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ในการศึกษานี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาการเคลื่อนตัวของสารปนเปื้อนประเภทสารประกอบไฮโดรคาร์บอนผ่านตัวกลางที่เป็นตัวแทนของชั้นน้ำที่ไม่เป็นเนื้อเดียวกัน การศึกษาจะทำการทดลองในห้องปฏิบัติการด้วยแบบจำลองกายภาพชนิดคอลัมภ์ การศึกษาด้วยแบบจำลองคอลัมภ์ใช้สารละลายโซเดียมคลอไรด์ เบนซีนและไตรคลอโรเอธิลีนในการศึกษา ควบคุมการปล่อยสารแบบกะ ที่ทางเข้าผ่านตัวกลางที่เป็นตัวแทนของชั้นน้ำ การวัดความเข้มข้นสารเบนซีนและไตรคลอโรเอธิลีนมีการพัฒนาใช้เครื่องยูวี-วิซิเบิลแทนเครื่องแก็สโครมาโตกราฟี ผลการศึกษาการเคลื่อนตัวของสารปนเปื้อนพบว่าสารคลอไรด์เดินทางเร็วที่สุดตามด้วยสารเบนซีนและสารไตรคลอโรเอธิลีนตามลำดับ การวัดข้อมูลจากการทดลองพบว่าลักษณะหางที่ยาวเป็นผลกระทบของ แบ็คดิฟฟิวชั่น ที่อัตราการไหลต่ำมวลของไตรคลอโรเอธิลีนและเบนซีนจะถูกดูดซับไว้ในอัตราที่สูงซึ่งมีผลโดยตรงต่อค่าตัวประกอบความหน่วงการปรับอัตราการไหลจาก 40 เป็น 60 มิลลิลิตรต่อชั่วโมงส่งผลให้เกิดสภาวะไม่สมดุลทางเคมี ข้อมูลจากแบบจำลองกายภาพจะเป็นข้อมูลนำเข้าในแบบจำลอง UTCHEM