Abstract:
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้นำเสนอค่ากำลังสัญญาณสูงสุดเฉลี่ยตามระยะทางที่คิดรวมผลของดิสเพอร์ชั่นเป็นครั้งแรก เพื่อนำไปใช้ในการวิเคราะห์การสื่อสัญญาณทางแสงในเชิงทฤษฎีให้ได้ผลถูกต้องแม่นยำกว่าเดิมซึ่งใช้ค่ากำลังสัญญาณสูงสุดเฉลี่ยตามระยะทางที่คิดเพียงผลของการลดทอนของกำลังสัญญาณเท่านั้น ในการหาค่ากำลังสัญญาณสูงสุดเฉลี่ยตามระยะทางที่คิดรวมผลของดิสเพอร์ชั่นนั้น ในขั้นแรกจะวิเคราะห์ในกรณีที่ทำการสื่อสัญญาณเพียงบิตเดียว ความถูกต้องแม่นยำของค่ากำลังสัญญาณสูงสุดเฉลี่ยที่ได้คิดค้นขึ้นนี้ ถูกพิสูจน์โดยการจำลองการสื่อสัญญาณทางแสงแบบ Differential phase-shift keying ที่อัตราข้อมูล 5 Gbps และ 40 Gbps ในเส้นใยแสง ทั้งในระบบที่ใช้วิธีการจัดการดิสเพอร์ชั่น (Dispersion management) และระบบที่ใช้วิธีคอนจูเกตสัญญาณที่กึ่งกลางระบบ (Optical phase conjugation) จากการเปรียบเทียบผลการจำลองทางคณิตศาสตร์ของการสื่อสัญญาณในแบบดังกล่าวเทียบกับผลที่ได้จากการวิเคราะห์ผลตอบสนองทางความถี่ของความผิดพลาดทางเฟสที่ใช้ค่ากำลังสัญญาณสูงสุดเฉลี่ยแบบเดิมที่คิดเพียงผลของการลดทอนของกำลังสัญญาณเพียงอย่างเดียว และค่ากำลังสัญญาณสูงสุดเฉลี่ยแบบใหม่ที่นำเสนอในการคำนวณ พบว่าผลการจำลองทางคณิตศาสตร์สอดคล้องกับการวิเคราะห์ผลตอบสนองทางความถี่ของความผิดพลาดทางเฟสโดยใช้ค่ากำลังสัญญาณสูงสุดเฉลี่ยที่คิดรวมผลของดิสเพอร์ชั่นมากกว่าการใช้ค่ากำลังสัญญาณสูงสุดเฉลี่ยแบบเดิมที่คิดผลของการลดทอนของสัญญาณเพียงอย่างเดียวจากนั้นวิทยานิพนธ์นี้ได้ทำการประมาณค่ากำลังสัญญาณสูงสุดเฉลี่ยตามระยะทางที่คิดรวมผลของดิสเพอร์ชั่นในกรณีที่ใช้หลายบิตในการสื่อสัญญาณ ทั้งในระบบที่ทำการมอดูเลตแบบดีพีเอสเคและในระบบที่ทำการมอดูเลตทางความเข้มแสง ในการมอดูเลตแบบดีพีเอสเคค่ากำลังสัญญาณสูงสุดเฉลี่ยตามระยะทางที่คิดรวมผลของดิสเพอร์ชั่นในกรณีที่ใช้หลายบิตในการสื่อสัญญาณนั้นพบว่ามีค่าประมาณ 0.57 เท่าของค่ากำลังสัญญาณสูงสุดเฉลี่ยในกรณีที่ทำการสื่อสัญญาณเพียงบิตเดียว ส่วนการมอดูเลตทางความเข้มแสงค่ากำลังสัญญาณสูงสุดเฉลี่ยตามระยะทางที่คิดรวมผลของดิสเพอร์ชั่นในกรณีที่ใช้หลายบิตในการสื่อสัญญาณพบว่ามีค่าประมาณ 0.51 เท่าของค่ากำลังสัญญาณสูงสุดเฉลี่ยในกรณีที่ทำการสื่อสัญญาณเพียงบิตเดียว
