DSpace Repository

การสำรวจนํ้าบาดาลด้วยวิธีวัดค่าความต้านทานไฟฟ้าบริเวณ อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี

Show simple item record

dc.contributor.advisor ฐานบ ธิติมากร
dc.contributor.author กิตติภพ กวางทอง
dc.contributor.other จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะวิทยาศาสตร์
dc.coverage.spatial สระบุรี
dc.date.accessioned 2017-09-28T11:24:36Z
dc.date.available 2017-09-28T11:24:36Z
dc.date.issued 2557
dc.identifier.uri http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/53381
dc.description โครงงานเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปีการศึกษา 2557 en_US
dc.description.abstract จากปัญหาการเพิ่มขึ้นของประชากรในพื้นที่อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ทำให้เกิดมีความต้องการในการใช้นํ้าเพิ่มสูงขึ้นจนมีปัญหาการขาดแคลนนํ้าไว้ใช้ในการอุปโภคและบริโภค จึงทำให้มีความต้องการที่จะมีการพัฒนาบ่อบาดาลเพื่อนำมาใช้เพื่อช่วยลดปัญหาการขาดแคลนนํ้าในพื้นที่ งานวิจัยนี้มุ่งทำการสำรวจหาลักษณะทางอุทกธรณีวิทยาของพื้นที่รอบโครงการพัฒนาที่ดินจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ด้วยการประยุกต์วิธีการสำรวจทางธรณีฟิสิกส์ด้วยวิธีการวัดค่าความต้านทานไฟฟ้าแบบความต้านทานไฟฟ้าหยั่งลึก(Vertical Electrical Sounding, VES) โดยการวางขั้วแบบ Wenner-Schlumberger array เพื่อศึกษาศักยภาพนํ้าบาดาล(Groundwater Potential)ในพื้นที่ดังกล่าว โดยมีความลึกในการสำรวจ 100 เมตร ซึ่งหลังจากเก็บข้อมูลค่าความต้านทานไฟฟ้าผู้วิจัยได้ทำการสร้างภาพตัดขวางจากข้อมูลค่าความต้านทานไฟฟ้า และแบบจำลองเชิงมโนทัศน์ จากการเปรียบเทียบข้อมูลบ่อบาดาลของกรมทรัพยากรนํ้าบาดาล ได้ข้อสรุปว่าในพื้นที่ศึกษามีลักษณะทางธรณีวิทยาทั้งหมด 3 ชั้น ได้แก่ ชั้น Top Soil, ชั้น Sand และ Fractured volcanic rock โดยชั้นที่เป็นชั้นนํ้าบาดาลของพื้นที่นี้มี 2 ชั้นได้แก่ชั้น Sand และ Fractured volcanic rock ซึ่งพบได้ที่ความลึกประมาณ 25 - 65 เมตรและ ที่ความลึกมากกว่า 65 เมตร โดยเฉลี่ยในพื้นที่นี้ ซึ่งเป็นชั้นนํ้าที่มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นบ่อบาดาล en_US
dc.description.abstractalternative An increasing of population in Amphoe Kaeng Khoi, Changwat Saruburi caused high demand of water resources. Finally, there will be a shortage of water resources for consumption. It needs to be developed artesian well to reduce the problem water scarcity in this area. This research aims to survey the aquifer characteristic in Chulalongkorn University land development project, Amphoe Kaeng Khoi, Changwat Saraburi area. With the application of geophysical methods called Vertical Electrical Sounding(VES) by using Wenner-Schlumberger array, the groundwater potential in this area can be characterized and evaluated. The in-depth survey of 100 meters could be achieved using this technique. After data collection, the pseudo cross section of the resistivity data and conceptual model were developed. By comparing the data from the Department of water resources and this study, it was concluded that in the study area three geological units can be identified. There were top soil layer, sand layer, and fractured volcanic rock layer. Sand unit and fractured volcanic rock unit are considered to be potential aquifers of the area. They were found at a depth of about 25 - 65 meters and at a depth of over 65 meters respectively. en_US
dc.language.iso th en_US
dc.publisher จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.relation.uri http://doi.org/10.14457/CU.the.2014.1403
dc.rights จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย en_US
dc.subject น้ำบาดาล -- ไทย -- สระบุรี en_US
dc.subject ชั้นน้ำบาดาล -- ไทย -- สระบุรี en_US
dc.subject อุทกธรณีวิทยา -- ไทย -- สระบุรี en_US
dc.subject ความต้านทานไฟฟ้า -- ไทย -- สระบุรี en_US
dc.subject การสำรวจทางธรณีฟิสิกส์ -- ไทย -- สระบุรี en_US
dc.subject Groundwater -- Thailand -- Saraburi en_US
dc.subject Aquifers -- Thailand -- Saraburi en_US
dc.subject Hydrogeology -- Thailand -- Saraburi en_US
dc.subject Electric resistance -- Thailand -- Saraburi en_US
dc.subject Geophysical surveys -- Thailand -- Saraburi en_US
dc.title การสำรวจนํ้าบาดาลด้วยวิธีวัดค่าความต้านทานไฟฟ้าบริเวณ อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี en_US
dc.title.alternative Exploration of groundwater using electrical resistivity method in Amphoe Kaeng Khoi, Changwat Saraburi en_US
dc.type Senior Project en_US
dc.email.advisor thanop.t@chula.ac.th
dc.identifier.DOI 10.14457/CU.the.2014.1403


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record