Abstract:
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้มีจุดมุ่งหมายศึกษาการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของบุคคลที่ถูกกำหนดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ. 2559 เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายว่ามาตรการเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายของไทยคุ้มครองและจำกัดสิทธิและเสรีภาพบุคคลที่ถูกกำหนดซึ่งเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย โดยวิเคราะห์เปรียบเทียบกับมาตรการเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อร้ายของต่างประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เนเธอร์แลนด์ และสิงคโปร์ ผลการศึกษาพบว่า การคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของบุคคลที่ถูกกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายของไทยยังไม่ชัดเจนและครอบคลุมตามมาตรฐานสากลขององค์การสหประชาชาติ (UN) จนอาจกระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ได้ โดยเฉพาะการยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับมนุษยธรรมและความจำเป็นพื้นฐาน (essential human needs) ที่จะไม่ถูกดำเนินการตามมาตรการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ. 2559 ส่วนการจำกัดสิทธิและเสรีภาพนั้น พบว่าสิทธิที่จะร้องเรียน (right to be heard) ของบุคคลที่ถูกกำหนดถูกกระทบมากที่สุดจากมาตรการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายของไทยในกระบวนการกำหนดรายชื่อให้เป็นบุคคลที่ถูกกำหนดทั้งประเภท UN Sanction List และ Thailand Sanction List และพบว่ากฎเกณฑ์ระยะเวลาการเพิกถอนรายชื่อบุคคลที่ถูกกำหนดทั้งประเภท UN Sanction List และ Thailand Sanction List ยังไม่ชัดเจนให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลขององค์การสหประชาชาติ (UN) อีกด้วย
