Abstract:
การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง (Experimental Research) แบบ Randomized Control Study มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการบำบัดด้วยแสงจ้าในผู้ป่วยหลังผ่าตัดที่เข้ารับการรักษาแผนกไอซียูศัลยกรรม โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทยในการลดการเกิดภาวะสับสนเฉียบพลันและต่อปัญหาการนอนหลับ กลุ่มตัวอย่างคือผู้ป่วยภายหลังการผ่าตัดที่เข้ารับการรักษาในแผนกผู้ป่วยวิกฤตศัลยกรรม โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย จำนวน 61 คน เก็บข้อมูลระหว่างเดือนกันยายน 2559-กุมภาพันธ์ 2560 เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลประกอบด้วยแบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบประเมิน APACHE II Score แบบประเมินภาวะสับสนเฉียบพลันในผู้ป่วยวิกฤต (CAM-ICU) และแบบประเมินอาการนอนไม่หลับ (ISI) กลุ่มทดลองได้รับ Bright Light Therapy ที่มีความสว่าง 5,000 ลักซ์ เป็นเวลา 2 ชั่วโมงในเวลา 09.00-11.00น. ติดต่อกัน 3 วันภายหลังจากผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในแผนกผู้ป่วยวิกฤตศัลยกรรมภายใน 24 ชั่วโมง กลุ่มควบคุมได้รับการดูแลเช่นเดียวกับกลุ่มทดลองและได้รับแสงที่มีความสว่าง 500 ลักซ์ (แสงสว่างภายในหอผู้ป่วย) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรม SPSS version 22 เพื่อหาสถิติเชิงพรรณนา ANOVA Chi-square และวิเคราะห์ผลของ BLT ต่อการนอน ด้วย Generalized Estimating Equation (GEE) ผลการศึกษาพบว่าการบำบัดด้วยแสงจ้ามีผลทำให้การเกิดภาวะสับสนเฉียบพลันลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.27 เท่า (95%CI = 0.07-0.98 , p = 0.047) เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับแสงจ้า ระดับ Hematocrit มีผลทำให้การเกิดภาวะสับสนเฉียบพลันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.87 เท่า (95%CI = 0.78-0.97 , p = 0.014) ค่าคะแนน APACHE II score มีผลทำให้การเกิดภาวะสับสนเฉียบพลันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 1.08 เท่า (95%CI = 1.05-1.25 , p < 0.001) ค่าคะแนน Insomnia Severity Index มีผลทำให้การเกิดภาวะสับสนเฉียบพลันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 1.13 เท่า (95%CI = 1.02-1.26 , p = 0.021) และทำให้คะแนนการนอนไม่หลับลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.79 เท่า (95%CI = 0.64-0.98 , p = 0.034) เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับแสงจ้า และพบว่าจำนวนวันที่ได้รับแสงจ้ามีผลทำให้คะแนนการนอนไม่หลับลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.81 เท่า (95%CI = 0.67-0.97 , p = 0.029) เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับแสงจ้า