Abstract:
ในการประมาณขนาดซอฟต์แวร์ เพื่อใช้ในการกำหนดราคาซอฟต์แวร์และเตรียมทรัพยากรในด้านแรงงานและระยะเวลา แต่มักพบว่าการพัฒนาซอฟต์แวร์ส่วนใหญ่มีการประมาณการเกินกว่าที่ประมาณการไว้ งานวิจัยนี้จึงอยากทราบว่า การประมาณค่าความพยายามในขั้นตอนการออกแบบกับเมื่อพัฒนาซอฟต์แวร์เรียบร้อยแล้วมีค่ามากว่ากัน เพื่อนำไปใช้ในการกำหนดราคาและบริหารจัดการทรัพยากรให้มีความแม่นยำมากขึ้น โดยใช้วิธีการวิเคราะห์ฟังก์ชันพอยต์จากแผนภาพกระแสข้อมูลของรายละเอียดซอฟต์แวร์ที่ออกแบบไว้กับรายละเอียดซอฟต์แวร์ที่สร้างเสร็จแล้ว โดยเก็บรวบรวมข้อมูลจากแผนภาพกระแสข้อมูล แผนภาพแสดงความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มข้อมูล และพจนานุกรมข้อมูล จำนวน 30 ชุดข้อมูล และเพื่อให้การนับจำนวนฟังก์ชันพอยต์มีมาตราฐานเดียวกัน ผู้วิจัยได้พัฒนาเครื่องมือสำหรับการนับค่าฟังก์ชันพอยต์จากแผนภาพกระแสข้อมูลที่วาดบนเครื่องมือไมโครซอฟต์วิซิโอ โดยใช้ภาษาจาวาโดยพัฒนาเครื่องมือตามโครงสร้างไฟล์รูปแบบเอ็กเอ็มเอลของแผนภาพกระแสข้อมูลที่ใช้ข้อมูลเข้าของเครื่องมือ จากงานวิจัยพบว่าทุกประเภทฟังก์ชันของรายละเอียดซอฟต์แวร์ที่สร้างเสร็จแล้วมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะในส่วนของแฟ้มข้อมูลภายในและข้อมูลนำเข้าภายนอก มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นและมีผลโดยตรงต่อกัน โดยมีค่าผลรวมเพิ่มขึ้นเท่ากับ 13.33 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งยังพบว่าค่าฟังก์ชันพอยต์ที่คำนวณจากทุกระดับแผนภาพกับค่าฟังก์ชันที่คำนวณเฉพาะแผนภาพระดับที่หนึ่ง มีค่ามากกว่าเท่ากับ 7.42 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการประมาณขนาดซอฟต์แวร์ที่แม่นยำมากขึ้น