Abstract:
ปัจจัยสำคัญที่สุดปัจจัยหนึ่งในองค์กรภายใต้ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วทางเทคโนโลยี คือระบบสารสนเทศขององค์กร โครงการวิจัยนี้ศึกษาความเป็นไปได้ของกลยุทธ์การรวมการกระจายธุรกิจของโรงพยาบาล และโรงแรมเอกชนในประเทศไทย กลยุทธ์ธุรกิจดังกล่าว ได้แก่ กลยุทธ์โรงพยาบาลโรงแรม (Hospitel)กลยุทธ์การพักระยะยาว (Long Stay) กลยุทธ์การให้บริการถึงบ้าน (Homecare Services) ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ค่อนข้างใหม่สำหรับธุรกิจการให้บริการในประเทศไทย นอกจากนั้นยังศึกษาถึงความสอดคล้องระหว่างระบบสารสนเทศขององค์กรและกลยุทธ์ธุรกิจดังกล่าว ระเบียบวิธีวิจัยที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ประกอบด้วย การวิจัยเชิงสำรวจและการสัมภาษณ์เชิงลึก ซึ่งอัตราการตอบรับค่อนข้างต่ำ คือ 15% สำหรับการตอบแบบสอบถามการสำรวจของโรงพยาบาลและโรงแรมเอกชนภายในประเทศ และ 32% สำหรับการสัมภาษณ์เชิงลึกโรงพยาบาลและโรงแรมที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นอกจากนั้นยังมีการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับระบบสารสนเทศหลักของบริษัทจดทะเบียนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันโดยการสอบถามทางโทรศัพท์ทั้งหมด และสัมภาษณ์บริษัทที่จำหน่ายซอฟต์แวร์ทุกยี่ห้อเพื่อให้เข้าใจถึงการใช้ระบบสารสนเทศในอุตสาหกรรมทั้งสองอย่างครบถ้วนมากที่สุด ผลการวิเคราะห์แหล่งข้อมูลต่างๆ มีความคล้ายคลึงกันและเป็นไปในทางเดียวกัน นั่นคือ โรงพยาบาลมีความเป็นไปได้สูงที่จะนำกลยุทธ์ Hospitel มาใช้และโรงแรมจะใช้กลยุทธ์ Long Stay ส่วนกลยุทธ์ Homecare Service นั้นมีความเป็นไปได้น้อยมากที่ธุรกิจทั้งสองจะสนใจ นอกจากนี้ผลการวิเคราะห์ยังพบว่า องค์กรขนาดเล็กมีความพร้อมที่จะยอมรับกลยุทธ์การรวมธุรกิจมากกว่าองค์กรขนาดใหญ่ แต่สำหรับธุรกิจโรงพยาบาลหรือโรงแรมไม่ว่าขนาดจะต่างกันหรือไม่ ต่างก็เห็นว่าระบบสารสนเทศของตนมีความสอดคล้องกับกลยุทธ์การรวมธุรกิจทั้งสิ้น โรงพยาบาลและโรงแรมเกือบทั้งหมดที่จะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายสำหรับเฉพาะที่อุตสาหกรรมของตน เช่นเดียวกับบริษัทใหญ่อื่นๆ ภายในประเทศแม้ว่าองค์กรเหล่านั้นจะยอมลงทุนในซอฟต์แวร์สำเร็จรูปในครั้งแรก แต่ส่วนใหญ่ไม่เต็มใจที่จะเสียค่าบำรุงรักษา หรือค่าปรับปรุงให้ระบบมีความทันสมัยอยู่เสมอ แม้ข้อมูลวิจัยที่เก็บได้จากแหล่งต่างๆ จะไม่ระบุอย่างชัดเจนถึงปัจจัยที่มีผลต่อความสอดคล้องกันระหว่างระบบสารสนเทศองค์กรและกลยุทธ์การรวมธุรกิจ แต่จากบันทึกข้อมุลการสัมภาษณ์เชิงลึกที่ได้นำมาวิเคราะห์ในรูปแบบต้นเหตุและผลลัพธ์ (Cause and Effect) พบว่าองค์กรไม่สนใจที่จะนำกลยุทธ์การรวมธุรกิจไปใช้ เพราะความต้องการในบริการจากการใช้กลยุทธ์กิจเหล่านั้นมีอยู่ไม่เพียงพออีกทั้งยังต้องมีการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อนำกลยุทธ์ไปสู่การปฎิบัติทั้งๆ ที่ระบบสารสนเทศก็มีความสอดคล้องกับกลยุทธ์ใหม่อยู่แล้วนั่นคือ โรงพยาบาลยังไม่สามารถรองรับความต้องการในด้านการรักษาพยาบาลของผุ้ป่วยได้เพียงพอ เพราะบุคลากรด้านการแพทย์และการพยาบาลในประเทศยังค่อนข้างจะขาดแคลน ส่วนโรงแรมก็มีปัญหาในการลงทุนเพราะอุปสงค์ผันผวนจากเหตุการณ์แวดล้อมต่างๆ ที่โรงแรมไม่สามารถควบคุมได้ เช่น การก่อการร้ายสากล ภัยธรรมชาติ และโรคระบาด