Abstract:
การใช้งานลิขสิทธิ์อย่างเป็นธรรม เป็นหลักการจำกัดสิทธิแต่เพียงผู้เดียวของเจ้าของลิขสิทธิ์ ประการหนึ่งที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานลิขสิทธิ์สามารถเข้าถึงหรือใช้งานลิขสิทธิ์ ที่อยู่ภายในระยะเวลาที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ที่เป็นการใช้อย่างเป็นธรรมโดยมิต้องขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ หรือจ่ายค่าตอบแทนลิขสิทธิ์ เพื่อสร้างสมดุลระหว่างประโยชน์สาธารณะกับประโยชน์ของเจ้าของลิขสิทธิ์ ซึ่งหลักการดังกล่าวได้นำมาบัญญัติไว้ในมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 โดยระบุองค์ประกอบทั่วไปไว้กว้างๆ ทำให้ยากต่อการพิสูจน์เมื่อผู้ใช้งานลิขสิทธิ์ถูกฟ้องต่อศาล และทำให้เกิดความแตกต่างในการใช้ดุลพินิจของผู้บังคับใช้กฎหมาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานลิขสิทธิ์ ผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์และบุคคลทั่วไป จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษา วิจัยในเรื่องนี้ การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัญหาข้อกฎหมายลิขสิทธิ์ในการใช้งานอย่างเป็นธรรมที่เกี่ยวกับการศึกษา โดยได้ศึกษาหลักกฎหมายลิขสิทธิ์ แนวทางของผู้ใช้งานลิขสิทธิ์ ตลอดจนคำพิพากษาทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อนำเสนอสาระสำคัญสู่การปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย และการกำหนดแนวทางของผู้ใช้งานลิขสิทธิ์ที่เกี่ยวกับการศึกษา เพื่อประโยชน์ต่อการวินิจฉัยของศาล และผู้ใช้งานลิขสิทธิ์ในการบังคับใช้หลักการดังกล่าว
จากการศึกษาวิจัยพบว่า องค์ประกอบทั่วไปที่นำมาพิจารณาประกอบการกระทำเกี่ยวกับการศึกษาที่บัญญัติในมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 มีความไม่ชัดเจน เนื่องจากมีรายละเอียดน้อยเมื่อเปรียบกับกฎหมายลิขสิทธิ์ของต่างประเทศ ประกอบกับประเทศไทยยังไม่มีการประกาศใช้แนวทางของผู้ใช้งานลิขสิทธิ์ ในเรื่องการใช้งานอย่างเป็นธรรมที่เกี่ยวกับการศึกษาเช่นในต่างประเทศ ทำให้ผู้ใช้งานลิขสิทธิ์ เจ้าของลิขสิทธิ์ ไม่สามารถเข้าใจองค์ประกอบดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้นจึงควรที่จะมีการปรับปรุงแก้ไขมาตรา 32 วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 รวมทั้งให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้งานลิขสิทธิ์ หลักการใช้งานอย่างเป็นธรรม กำหนดและประชาสัมพันธ์แนวทางแก่ผู้ใช้งานลิขสิทธิ์ ในเรื่องการใช้งานอย่างเป็นธรรมที่เกี่ยวกับการศึกษา