Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบระดับการปฏิบัติตามค่านิยมพื้นฐานของนักเรียนที่มีภูมิหลังต่างกัน กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยเป็นนักเรียนในโรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดกรมสามัญศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวน 395 คน จากโรงเรียน 20 โรงเรียน เครื่องมือในการเก็บข้อมูลคือแบบสอบถามวิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละ ค่ามัชฌิมเลขคณิต ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ด้วยวิธีการของเชฟเฟ่ ผลการวิจัยพบว่า (1) นักเรียนมัธยมศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีการปฏิบัติตามค่านิยมพื้นฐานในระดับมาก (X̅ = 3.85) ค่านิยมพื้นฐานด้านการรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (X̅ = 4.09) ค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ ค่านิยมพื้นฐานด้านการประหยัดและออม (X̅ = 3.68 ) (2) เมื่อเปรียบเทียบการปฏิบัติตามค่านิยมพื้นฐานโดยรวมของนักเรียนที่มีระดับการศึกษาและศาสนาต่างกัน พบว่าไม่แตกต่างกัน เมื่อแยกพิจารณาค่านิยมแต่ละด้านไม่พบความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 (3) เมื่อเปรียบเทียบการปฏิบัติตามค่านิยมพื้นฐานโดยรวมของนักเรียนที่มีสภาพทางเศรษฐกิจของครอบครัวต่างกัน พบว่าไม่แตกต่างกัน เมื่อแยกพิจารณาค่านิยมแต่ละด้านพบความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 ในด้านการพึ่งตนเอง ขยันหมั่นเพียร และมีความรับผิดชอบ โดยนักเรียนที่มีสภาพทางเศรษฐกิจของครอบครัวต่ำมีการปฏิบัติตามค่านิยมพื้นฐานสูงกว่านักเรียนที่มีสภาพทางเศรษฐกิจของครอบครัวปานกลาง (4) เมื่อเปรียบเทียบการปฏิบัติตามค่านิยมพื้นฐานโดยรวมของนักเรียนที่มีการอบรมเลี้ยงดูต่างกัน พบว่าแตกต่างกัน เมื่อแยกพิจารณาค่านิยมแต่ละด้านพบว่าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .05 ในแต่ละด้าน โดยนักเรียนที่มีการอบรมเลี้ยงดูแบบประชาธิปไตยมีการปฏิบัติตามค่านิยมพื้นฐานสูงกว่าแบบเข้มงวดกวดขันและแบบปล่อยปละละเลยในทุก ๆ ด้าน และนักเรียนที่มีการอบรมเลี้ยงดูแบบเข้มงวดกวดขันมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าแบบปล่อยปละละเลยในด้านการพึ่งตนเอง ขยันหมั่นเพียร และมีความรับผิดชอบ การประหยัดและออม และด้านการปฏิบัติตามคุณธรรมของศาสนา