Abstract:
โรคสมาธิสั้นเป็นภาวะทางจิตเวชเด็กที่พบได้บ่อย เด็กระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1เป็นวัยที่ต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงหลายด้าน และเริ่มเข้าสู่การเรียนเขียนอ่านอย่างแท้จริง สมาธิเป็นปัจจัยสำคัญในการเรียนรู้เป็นอย่างมาก โรงเรียนมีบทบาทสำคัญในการสอน และดูแลเด็ก การใช้เทคนิคการบำบัดด้วยการเล่นมาประยุกต์จัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้เหมาะสมจึงมีความสำคัญ การวิจัยกึ่งทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาผลของโปรแกรมกิจกรรมการเล่นต่อช่วงความสนใจและสมาธิของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ณ โรงเรียนวัดสระแก้ว (รุ่งโรจน์ธนกุลอุปถัมภ์) จังหวัดอ่างทอง จำนวน 20 คน โดยแบ่งเป็นกลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 10 คน โดยกลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมกิจกรรมการเล่นที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นจากการทบทวนงานวิจัยที่เกี่ยวข้องร่วมกับความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ ส่วนในกลุ่มควบคุมได้รับกิจกรรมระบายสีภาพมันดาลา (Mandala) ซึ่งครูจะเป็นผู้ประเมินพฤติกรรมด้านสมาธิและความตั้งใจ โดยใช้แบบสำรวจพฤติกรรมเด็ก (TYC) โดยสมทรง สุวรรณเลิศ และวันชัย ไชยสิทธิ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาในการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม ด้วยสถิติ Mann – Whitney test และ Wilcoxon signed rank testผลการวิจัยพบว่ากลุ่มทดลองมีคะแนนรวมของพฤติกรรมเชิงบวกในชั้นเรียนสูงขึ้น และคะแนนรวมของพฤติกรรมปัญหาด้านสมาธิลดลง แตกต่างจากกลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โปรแกรมกิจกรรมการเล่นมีประโยชน์ในการเพิ่มพฤติกรรมเชิงบวก ช่วงความสนใจและสมาธิในเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนและพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมในโรงเรียนได้ คำสำคัญ : สมาธิสั้น, เด็กวัยเรียน, การเล่นบำบัด