Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาการปฏิบัติงานของพยาบาลประจำการ ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล การมีส่วนร่วมในงาน แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในงาน กับการปฏิบัติงานของพยาบาลประจำการ และศึกษาตัวแปรที่ร่วมกันพยากรณ์การปฏิบัติงานของพยาบาลประจำการ โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างคือ พยาบาลประจำการ จำนวน 348 คน ได้จากการสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม ประกอบด้วย แบบสอบถามปัจจัยส่วนบุคคล แบบสอบถามการมีส่วนร่วมในงาน แบบสอบถามแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในงาน และแบบสอบถามการปฏิบัติงานของพยาบาล ซึ่งได้ผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหาจากผู้ทรงคุณวุฒิ 5 คน และหาค่าความเที่ยงของเครื่องมือ โดยใช้สูตรสัมประสิทธิ์แอลฟ่าของครอนบราคได้ค่าเท่ากับ .89, .86 และ .93 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติการแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน และสมการถดถอยพหุคูณแบบเพิ่มตัวแปรเป็นขั้นตอน ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. การปฏิบัติงานของพยาบาลประจำการ โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร อยู่ในระดับดี ( = 3.93, SD = .41) 2. ปัจจัยส่วนบุคคล ด้านระดับการศึกษา และระยะเวลาในการปฏิบัติงาน มีความสัมพันธ์ทางบวกกับการปฏิบัติงานของพยาบาลประจำการ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3. การมีส่วนร่วมในงาน และ แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในงาน มีความสัมพันธ์ทางบวกในระดับปานกลาง กับการปฏิบัติงานของพยาบาลประจำการ โรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (r = .46 และ .51 ตามลำดับ) 4. ตัวแปรที่ร่วมกันพยากรณ์การปฏิบัติงานของพยาบาลประจำการ ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05 คือ การมีส่วนร่วมในงาน และแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ในงาน โดยสามารถร่วมกันพยากรณ์การปฏิบัติงานของพยาบาลประจำการได้ร้อยละ 30.2 (R2 = .302) สมการพยากรณ์ในรูปคะแนนมาตรฐาน มีดังนี้ การปฏิบัติงานของพยาบาล = .373 แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ในงาน +.234 การมีส่วนร่วมในงาน