Abstract:
เนื่องด้วยการนำทรัพย์สินมาเป็นหลักประกันมีข้อจำกัด คือไม่สามารถนำทรัพย์สินมาใช้เป็นหลักประกันในลักษณะที่ไม่ต้องส่งมอบการครอบครองแก่เจ้าหนี้ได้ อันก่อให้เกิดผลเสียต่อการประกอบธุรกิจ ดังนั้นจึงได้มีแนวคิดในการตราร่างพระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ.... ขึ้นมา โดยนำแนวความคิดในระบบกฎหมายคอมมอนลอว์มาบังคับใช้โดยสามารถเอาสินค้าคงคลังมาเป็นหลักประกันได้โดยไม่ต้องส่งมอบหลักประกัน การศึกษาวิทยานิพนธ์นี้ก็เพื่อวิเคราะห์ถึงการนำสินค้าคงคลังมาเป็นหลักประกันตามบทบัญญัติดังกล่าวว่า หากต้องมีการบังคับหลักประกัน อาจมีปัญหาและอุปสรรคเกี่ยวกับการบังคับหลักประกัน ตลอดจนผลกระทบที่เกิดขึ้นประการใด จากการศึกษาพบว่ากระบวนการบังคับหลักประกันประเภทสินค้าคงคลังตามร่างพระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจพ.ศ.... ยังมีข้อขัดข้องบางประการ กล่าวคือ ในร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวไม่มีบทนิยามความหมายของคำว่าสินค้าคงคลังอาจทำให้เกิดปัญหาในการตีความและบังคับใช้ได้ นอกจากนี้บทบัญญัติที่ว่าจะต้องนำหนังสือสัญญาหลักประกันทางธุรกิจไปจดทะเบียน อาจก่อให้เกิดความสับสนได้ว่า การจดทะเบียนเป็นแบบของนิติกรรมตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 152 อีกหรือไม่ ซึ่งเจตนารมณ์ของบทบัญญัติกฎหมายคงไม่ได้เป็นเช่นนั้น และปัญหาการเข้าครอบครองสินค้าคงคลังที่เป็นหลักประกันที่ไม่ได้อยู่ในความครอบครองของผู้รับหลักประกันอาจเป็นปัญหาและก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมได้ในทางปฏิบัติ ผู้เขียนจึงเสนอแนะว่าควรมีบทบัญญัตินิยามของคำว่าสินค้าคงคลังเพื่อให้เกิดความชัดเจน แยกต่างหากจากคำว่าวัตถุดิบ นอกจากนี้เห็นว่าการนำสัญญาหลักประกันที่ได้ทำเป็นหนังสือไปจดแจ้งต่อเจ้าพนักงาน แทนคำว่านำหนังสือสัญญาหลักประกันไปจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานจะเป็นไปตามความมุ่งหมายอย่างแท้จริงของร่างฉบับนี้ และข้อเสนอแนะประการสุดท้ายควรเปิดโอกาสให้คู่สัญญาสามารถตกลงกันเพื่อกำหนดวิธีการบังคับหลักประกันได้ หากข้อตกลงดังกล่าวนั้นไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หากไม่สามารถตกลงกันได้เจ้าหนี้ผู้รับหลักประกันย่อมยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้ศาลทำการไต่สวนโดยเร็ว ทั้งนี้เพื่อให้ผู้รับหลักประกันได้เข้าครอบครองและนำสินค้าคงคลังออกขายทอดตลาดได้โดยเร็ว เพื่อให้การบังคับดังกล่าวเป็นไปโดยความรวดเร็วสมดังเจตนารมณ์ในการตราร่างกฎหมายฉบับนี้