Abstract:
จากรายงานสถิติโจรสลัดและการปล้นเรือโดยใช้อาวุธขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศตั้งแต่ปี ค.ศ. 1998 ถึงปี ค.ศ. 2007 มีปริมาณการเกิดการกระทำผิดต่อเรือขึ้นในบริเวณช่องแคบมะละกาจำนวนมาก โดยจากลักษณะของการกระทำผิดนั้นในหลายกรณีที่ไม่เป็นการกระทำอันเป็นโจรสลัดตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982 เนื่องด้วยการกระทำดังกล่าวไม่เป็นไปตามคำจำกัดความของอนุสัญญาฉบับนี้ แต่ถึงอย่างไรก็ตามการกระทำผิดต่อเรือที่เกิดขึ้นในช่องแคบมะละกาเป็นภัยคุกคามต่อการเดินเรือทางทะเลซึ่งเป็นการกระทำผิดตามอนุสัญญาเพื่อการปราบปรามการกระทำอันมิชอบด้วยกฎหมายต่อความปลอดภัยในการเดินเรือทางทะเล ค.ศ. 1988 แต่มีเพียงประเทศสิงคโปร์เพียงประเทศเดียวที่ลงนามอนุสัญญาฉบับนี้ ดังนั้นอนุสัญญานี้จึงไม่สามารถบังคับใช้ได้กับกรณีที่เกิดการกระทำผิดขึ้นในช่องแคบมะละกา ด้วยเหตุที่การบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการกระทำอันเป็นโจรสลัดและการปล้นเรือโดยใช้อาวุธไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องพิจารณาถึงความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามโจรสลัดและการปล้นเรือโดยใช้อาวุธที่มีอยู่ในช่องแคบมะละกา ผลจากการศึกษาพบว่า ปัญหาโจรสลัดและการปล้นเรือโดยใช้อาวุธในช่องแคบมะละกาไม่สามารถแก้ไขได้โดยอาศัยเฉพาะแต่เพียงมาตรการทางกฎหมายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ต้องอาศัยความร่วมมือทั้งในระดับระหว่างประเทศและระดับภูมิภาค