Abstract:
วิทยานิพนธ์ฉบับนี้เสนอการจำลองระบบและการทดสอบจริงของระบบแจ้งเตือนอุบัติการณ์สำหรับยานพาหนะด้วยการใช้โครงข่ายแอดฮอกของยานพาหนะ ซึ่งได้สร้างโค้ดใหม่ในการส่งต่อข้อมูลของระบบแจ้งเตือนอุบัติการณ์ เพื่อใช้ในการจำลองระบบและทดสอบจริงด้วยการใช้โปรแกรมจำลองโครงข่าย ns-3 โดยใช้โปรโตคอลการฟลัดดิ้งอย่างง่ายในการกระจายข้อมูลแจ้งเตือน โค้ดที่พัฒนาขึ้นนั้นอยู่บนชั้นการประยุกต์ใช้ของระบบแจ้งเตือนอุบัติการณ์ในระบบปฏิบัติการลินุกซ์ การทดลองแรกใช้การทดสอบจริงด้วยโครงข่ายแอดฮอกที่มีสี่โนดซึ่งใช้แผ่นวงจรประสานไร้สายมาตรฐาน IEEE 802.11b/g การทดลองเป็นสภาพที่มีสองช่วงการเชื่อมต่อของโครงข่ายแอดฮอกในสภาพที่มีและไม่มีผลกระทบจากการรบกวน โดยผลของค่าอัตราส่วนการได้รับข้อมูลและค่าประวิงเวลาเป็นผลการทดลองที่พิจารณา จากผลการทดสอบจริงในระบบขนาดเล็กนี้พบว่าการทดสอบระบบด้วยการใช้การจำลองระบบไม่สามารถให้ผลที่น่าเชื่อถือได้เหมือนกับการทดสอบจริง เนื่องจากการตั้งค่าอย่างง่ายในการจำลองระบบไม่ได้สะท้อนถึงสภาพแวดล้อมที่แท้จริง การทดลองที่สองเป็นการทดลองของโครงข่ายแอดฮอกของรถยนต์ที่ใช้โนดที่เป็นยานพาหนะสามโนดซึ่งเคลื่อนที่ด้วยวามเร็วคงที่ ในสภาพการติดต่อสื่อสารแบบแอดฮอกสองช่วงเชื่อมต่อที่สภาพแวดล้อมมีการรบกวนสัญญาณจากพื้นที่ทดสอบภายในมหาวิทยาลัย การทดลองที่สองนี้เป็นการหาค่ากำลังการส่ง และแบบจำลองการสูญเสียการแพร่กระจายที่ใช้ในการจำลองระบบที่ทำให้ได้ค่าผลการทดลองใกล้เคียงกับการทดสอบจริงซึ่งสะท้อนสภาพแวดล้อมแบบเฉพาะเจาะจงของการทดสอบจริง โดยค่าพารามิเตอร์ที่หาได้นี้ถูกนำไปใช้ในการจำลองระบบที่โนด 250 โนดเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงที่ ในการทดลองสุดท้ายเป็นการจำลองระบบแบบเพื่อเน้นการเปรียบเทียบผลการทดลองระหว่างการตั้งค่าอย่างง่ายที่ใช้แบบจำลองการสูญเสียการแพร่กระจายแบบระยะทางลอการิทึม และการตั้งค่าที่สะท้อนสภาพแวดล้อมจริง ด้วยการตั้งค่าทั้งสองแบบดังกล่าวพบว่าผลการทดลองมีแนวโน้มที่เหมือนกันเกือบทุกรูปแบบการทดลอง แต่ค่าของผลการทดลองคือค่าประวิงเวลาที่แต่ละโนดจะได้รับข้อมูลแจ้งเตือนนั้นพบว่าผลจากการจำลองระบบที่ตั้งค่าสะท้อนสภาพแวดล้อมจริงมีค่าสูงกว่าการตั้งค่าอย่างง่าย ผลจากการทดลองยังแสดงให้เห็นว่าถ้าส่งข้อมูลแจ้งเตือนอุบัติการณ์ด้วยความถี่มากขึ้นก็จะทำให้ค่าประวิงเวลาที่แต่ละโนดได้รับข้อมูลเพิ่มขึ้น และทำให้อัตราส่วนการได้รับข้อมูลลแจ้งเตือนแรกลดลงด้วย การค้นพบนี้สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นอย่างมากของข้อได้เปรียบเสียเปรียบในทางปฏิบัติที่จะต้องระวังในการเลือกปรับค่าอัตราการส่งข้อมูลแจ้งเตือนอย่างเหมาะสม ซึ่งจะเป็นแนวทางในการวิจัยเพื่อหาค่าที่เหมาะสมที่สุดที่จะรับประกันความสำเร็จของการทำงานของระบบได้ในอนาคต