Abstract:
วิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ที่จะระบุลักษณ์ทางภาษาในระดับคำ รวมทั้งศึกษาความแตกต่างของรูปแบบและลักษณะเฉพาะทางปริจเฉทของคำให้การจริงและคำให้การเท็จ เพื่อนำไปสู่การใช้เป็นจุดพึงสังเกตในการจำแนกคำให้การจริงและคำให้การเท็จ โดยใช้วิธีการเปรียบเทียบคำให้การจากผู้บอกภาษาทั้งหมด 60 คน ซึ่งผู้บอกภาษาแต่ละคนจะได้ให้การทั้งจริงและเท็จหลังจากชมภาพยนตร์ขนาดสั้นในห้องปฏิบัติการทางภาษา โดยมีสมมติฐานว่า ลักษณะภาษาระหว่างคำให้การจริงและคำให้การเท็จทั้งในระดับคำและระดับปริจเฉทจะมีความแตกต่างกัน การศึกษาวิเคราะห์ในระดับคำ จะใช้การทดสอบค่าทีเพื่อยืนยันความต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติของการใช้คำแต่ละประเภทระหว่างคำให้การจริงและคำให้การเท็จ โดยพิสูจน์จากการเปรียบเทียบความถี่การใช้ของคำในประเภทต่างๆที่แบ่งไว้เป็นประเภททางไวยากรณ์ และประเภททางจิตวิทยา ซึ่งผลการศึกษาพบประเภทของคำที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ p< 0.05 ดังต่อไปนี้ ประเภททางไวยากรณ์ของคำได้แก่ ประเภทคำกริยา คำคุณศัพท์ คำบุพบท คำสันธาน คำอนุภาค คำสรรพนาม คำปริมาณ การซ้ำ และประเภทประเภททางจิตวิทยา ได้แก่ คำแสดงสภาวะทางอารมณ์ คำแสดงอารมณ์เชิงลบ คำแสดงอารมณ์เชิงบวก คำแสดงการรับรู้ทางประสาทสัมผัสต่างๆ คำแสดงการหยั่งรู้ที่สะท้อนทัศนคติของผู้พูด คำแสดงการห้าม คำเชื่อมสัมพันธสาร คำแสดงความลังเลไม่มั่นใจ และคำแสดงความคลาดเคลื่อน ส่วนผลการศึกษาในระดับปริจเฉทได้มาจากการพิจารณาความต่างระหว่างคำให้การจริงและเท็จผ่านการประเมินความสามารถทางการใช้ภาษาในการเล่าเรื่อง โดยพบว่าคะแนนเฉลี่ยระหว่างคำให้การจริงและคำให้การเท็จมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ p<0.05 และคำให้การเท็จได้คะแนนสูงกว่าคำให้การจริง ซึ่งบ่งชี้ว่า ขณะให้การเท็จ ผู้พูดได้ใช้ความสามารถทางภาษาในการเล่าเรื่องมากกว่าขณะที่ให้การจริง ทำให้คำให้การเท็จมีความสมบูรณ์ในฐานะเรื่องเล่าสูงกว่าคำให้การจริง ดังนั้นแล้ว จากผลการศึกษาครั้งนี้จึงมีความเป็นไปได้ที่จะนำประเภทของคำและรูปแบบที่แตกต่างกันระหว่างคำให้การจริงและคำให้การเท็จในฐานะลักษณ์ทางภาษาพึงสังเกตไปใช้ประกอบการพิจารณาความจริงเท็จของคำให้การใดๆได้ต่อไป