Abstract:
พาณะเป็นกวีสันสกฤตในสมัยต้นคริสต์ศตวรรษที่ 7 ผู้มีชื่อเสียงจากการประพันธ์ร้อยแก้วเรื่องกาทัมพรีและหรรษจริต แต่งานร้อยกรองของพาณะยังไม่มีผู้ใดศึกษา รวมทั้งยังมีร้อยกรองอีกจำนวนหนึ่งที่เชื่อกันว่าอาจเป็นผลงานของพาณะแต่ก็มิอาจระบุผู้แต่งได้อย่างชัดเจน วิทยานิพนธ์นี้จึงมุ่งศึกษาวัจนลีลาในร้อยกรองของพาณะตามแนววัจนลีลาศาสตร์และทฤษฎีรีติ และนำวัจนลีลาที่ได้มาวิเคราะห์บทประพันธ์ร้อยกรองที่มีปัญหาผู้แต่งว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเป็นผลงานของพาณะ ข้อมูลที่นำมาศึกษาจึงประกอบด้วยร้อยกรองกลุ่มที่ยอมรับกันว่าเป็นของพาณะโดยไม่มีข้อขัดแย้ง และร้อยกรองที่มีปัญหาผู้แต่งอีก 68 บท ผลการศึกษาพบว่า ร้อยกรองของพาณะมีวัจนลีลาที่โดดเด่น ได้แก่ การใช้ยมกขนาดสั้น การใช้อนุปราสะอย่างแพรวพราว เศลษะ การวางคำกริยาไว้ข้างหน้าบาท สมาสยาว ประโยคยาว การใช้ฉันท์ที่สอดคล้องกับความหมายของบทประพันธ์ และการข่มผู้อื่น สอดคล้องกับวัจนลีลาในร้อยแก้วที่เคยมีผู้ศึกษาไว้แล้ว ถึงแม้ว่าวัจนลีลาเหล่านี้บางประการอาจพบในผลงานของกวีร่วมสมัยคนอื่นด้วย แต่งานร้อยกรองของพาณะก็มีลักษณะโดดเด่นที่ไม่พบในงานของกวีร่วมสมัย ได้แก่ การใช้เศลษะที่แปลได้ 3 ความหมาย การใช้ประพันธสรรพนามตัวเดียวในบทประพันธ์ และการข่มผู้อื่นทั้งทางตรงและทางอ้อม การวิเคราะห์วัจนลีลาดังกล่าวทำให้เข้าใจลีลาภาษาของพาณะได้ชัดเจนตรงกับความเป็นจริงมากกว่าการใช้ทฤษฎีรีติซึ่งเกิดขึ้นทีหลังงานประพันธ์ของพาณะและมุ่งเน้นวิเคราะห์และจัดกลุ่มลีลาการใช้ภาษาให้เป็นแบบใดแบบหนึ่ง เมื่อนำวัจนลีลาที่ได้มาวิเคราะห์ร้อยกรองที่มีปัญหาผู้แต่งทั้ง 68 บท ผลปรากฏว่า ร้อยกรองเหล่านี้อาจแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่ม เรียงตามลำดับความสอดคล้องกับวัจนลีลาดังกล่าวจากมากไปหาน้อย กล่าวคือ มีร้อยกรองจำนวน 6 บทที่มีความเป็นไปได้มากว่าจะเป็นผลงานของพาณะเนื่องจากมีลักษณะภาษาตรงกับวัจนลีลาที่วิเคราะห์ได้จากร้อยกรองของพาณะเป็นอย่างมาก ส่วนร้อยกรองอีก 34 บทมีความเป็นไปได้พอสมควรที่จะเป็นร้อยกรองของพาณะ เพราะวัจนลีลาค่อนข้างตรงกัน ขณะเดียวกันก็มีร้อยกรองจำนวน 26 บทที่เป็นไปได้น้อยว่าจะเป็นงานของพาณะ เพราะ วัจนลีลาตรงกันน้อย นอกจากนี้ยังมีร้อยกรองอีก 2 บทที่สรุปไม่ได้ว่าเป็นผลงานของพาณะ จากการศึกษาทำให้เห็นว่า ลีลาภาษาของกวีนับเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ปฏิเสธไม่ได้ ลีลาในร้อยกรองที่ไม่มีปัญหาผู้แต่งสามารถนำมาเป็นเครื่องมือช่วยพิสูจน์ร้อยกรองที่มีปัญหาเรื่องผู้แต่งได้ และอาจแก้ข้อสงสัยในประวัติวรรณคดีสันสกฤตได้ในระดับหนึ่ง