Abstract:
ที่มา: มะเร็งปอดชนิดเซลล์ไม่เล็ก (NSCLC)ในเอเชียตะวันออกส่วนใหญ่การกลายพันธุ์ที่พบเป็นการกลายพันธุ์ชนิดอีจีเอฟอาร์ (EGFR) สำหรับการกลายพันธุ์เคราส (KRAS)ซึ่งพบน้อยกว่าแต่เป็นความท้าทายในการวินิจฉัยและเป็นเป้าหมายในการรักษา การศึกษานี้รายงานความชุกของการกลายพันธุ์ KRAS ในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ร่วมกับการหาความแตกต่างของความเข้มข้นที่ติดสีไซคลินดีวัน (CyclinD1) บริเวณนิวเคลียส ในมะเร็งปอดชนิดไม่เล็กที่มีและไม่มีการกลายพันธุ์ KRAS วิธีการศึกษา: เป็นการศึกษาแบบขวางในผู้ป่วยมะเร็งปอดชนิดไม่เล็กที่ไม่มีการกลายพันธุ์ EGFR และเรียงตัวใหม่ของเอแอลเค (ALK) ในผู้ป่วยตั้งแต่ปี 1 มกราคม 2558 ถึง 31 กรกฎาคม 2560 ในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และนำมาหาการกลายพันธุ์ KRAS ด้วยชุดตรวจสอบโคบาสและนำมาย้อมหาการติดสี CyclinD1บริเวณนิวเคลียส งานวิจัยได้เก็บข้อมูลลักษณะทางคลินิก ประวัติการสูบบุหรี่ ระยะ การกลับเป็นซ้ำของโรค รวมทั้งการเสียชีวิตรวมทั้งเปรียบเทียบความแตกต่างของการแสดงออกของ CyclinD1ในผู้ป่วยที่มีและไม่มีการกลายพันธุ์ KRAS ผลการศึกษา: จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 95 รายที่ไม่มีการกลายพันธุ์ EGFR และไม่มีการเรียงตัวใหม่ ALK เราได้นำชิ้นเนื้อมาตรวจการติดสีไซคลินดีวันจำนวน 25 จาก 95 ราย (26%) มีการกลายพันธุ์ KRAS และ 27 จาก 95 ราย (28%) ที่ไม่มีการกลายพันธุ์ KRAS พบว่าสำหรับลักษณะทางคลินิกที่การกลายพันธุ์ KRAS แตกต่างกับไม่มีการกลายพันธุ์ KRAS อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติคือพบว่าเป็นชายมากกว่าหญิง ( p = 0.001) สูบบุหรี่พบมากกว่าไม่สูบบุหรี่ ( p = 0.005) มีแนวโน้มว่าการรอดชีวิตของที่มีการกลายพันธุ์ KRAS น้อยกว่าไม่มีการกลายพันธุ์แต่ว่าไม่ได้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = 0.053) และพบว่าการกลายพันธุ์ KRAS มีการติดสี cyclinD1 ที่นิวเคลียสมากกว่าไม่มีการกลายพันธุ์ KRAS อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ คือ 64.5% และ 49.3% (p = 0.03) ตามลำดับ สรุปผล: เราพบความชุกของการกลายพันธุ์ KRAS น้อยกว่าชาวตะวันตก แต่ว่าลักษณะทางคลินิกคล้ายกัน โดยที่พบการติดสี CyclinD1 ที่นิวเคลียสมากกว่าในการกลายพันธุ์ KRAS ซึ่งอาจจะเป็นตัวบ่งชี้ทางชีวภาพสำหรับการรักษามุ่งเป้าที่โปรตีนที่เกี่ยวข้องกับวัฏจักรของเซลล์