DSpace Repository

DOCTORAL MUSIC PERFORMANCE: TECHNIQUE AND EVOLUTION OF MODERN GUITAR PERFORMANCE

Show simple item record

dc.contributor.advisor Tongsuang Israngkun na Ayudhya
dc.contributor.author Apichai Chantanakajornfung
dc.contributor.other Chulalongkorn University. Faculty of Fine and Applied Arts
dc.date.accessioned 2018-09-14T06:05:44Z
dc.date.available 2018-09-14T06:05:44Z
dc.date.issued 2017
dc.identifier.uri http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/60052
dc.description Thesis (D.F.A.)--Chulalongkorn University, 2017
dc.description.abstract It was around the mid-nineteenth century that the guitar almost sank into oblivion due to the rising popularity of the piano. Fortunately, the art of guitar performance was still cultivated by certain figures residing mostly in Spain. One of them was the so-called 'father of modern guitar' - Francisco Tárrega (1852-1909), a guitarist who devoted all his life to bring back the legend and prestige of the instrument. Another figure who gave a great contribution to the history of the instrument was Andrés Segovia (1893-1987). Because of these ardent efforts of the past, the current guitar scene is very profound and promising. Two representative guitarists of the new generation are Julian Bream (1933-) and John Williams (1941-). They have also followed the path of their precursors and made many contributions to the instrument. Nowadays, excellent concert guitarists are sharing their platform all over the world with original repertoire written by contemporary guitarist composers, as in the past when guitarists were often composers as well. The performance of three concerts represents three different periods from the birth of the modern guitar to the present generation. It displays music from the period of Francisco Tárrega, Andrés Segovia and their descendants. The technique and performance aspects conceived for these concerts were derived from a combination of the power of nature and Tao philosophy.
dc.description.abstractalternative ช่วงกลางของคริสต์ศตวรรษที่ ๑๙ เครื่องดนตรีกีตาร์คลาสสิกได้เสื่อมความนิยมลงอย่างมากเนื่องจากผู้คนหันมาเล่นเครื่องดนตรีเปียโนแทน เพราะได้รับการพัฒนาตัวเครื่องจนสมบูรณ์แบบและมีบทเพลงอันยอดเยี่ยมตามมามากมาย อย่างไรก็ตามถือเป็นความโชคดีที่ศิลปะการบรรเลงกีตาร์คลาสสิกยังถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นในกลุ่มคนจำนวนไม่มากในประเทศสเปน หนึ่งในนั้นคือ ฟรานซิสโก ตาเรกา (Francisco Tárrega) ผู้ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นบิดาของโมเดิร์นคลาสสิกกีตาร์ เขาได้ทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อสร้างความนิยมให้กลับคืนมา นักกีตาร์ชาวสเปนอีกท่านหนึ่งที่ได้สร้างตำนานอันยิ่งใหญ่ไว้กับเครื่องดนตรีชิ้นนี้คือ อังเดรส เซโกเวีย (Andrés Segovia) ความพยายามที่จะยกระดับของเครื่องดนตรีให้มีเกียรติเทียบเท่ากับเครื่องดนตรีชิ้นอื่นในวงออร์เคสตราของทั้งสองท่านและนักกีตาร์อีกหลายท่านในอดีตได้ทำให้วงการกีตาร์คลาสสิกในปัจจุบันเติบโตและเฟื่องฟูเป็นอย่างมาก ตัวแทนของนักกีตาร์คลาสสิกรุ่นใหม่ที่เป็นแบบฉบับต่อมาคือ จูเลียน บรีม (Julian Bream) และ จอห์น วิลเลียมส์ (John Williams) เขาทั้งสองได้เดินตามรอยเท้าของบรมครูในอดีตและสร้างตำนานในแบบของตนเองออกมา สร้างการพัฒนาให้กับเครื่องดนตรีชิ้นนี้ไปอีกขั้น ในปัจจุบันมีนักกีตาร์คลาสสิกที่เก่งกาจมากมายออกแสดงคอนเสิร์ตไปทั่วโลก เผยแพร่บทเพลงกีตาร์คลาสสิกของตนเองเหมือนในยุคคลาสสิกที่เหล่านักแสดงกีตาร์ชั้นเลิศทั้งหมดก็เป็นนักประพันธ์เพลงเช่นเดียวกัน การแสดงคอนเสิร์ตทั้งสามครั้งเป็นการนำเสนอบทเพลงตั้งแต่การถือกำเนิดของโมเดิร์นคลาสสิกกีตาร์จวบจนถึงยุคปัจจุบัน ถ่ายทอดบทเพลงในยุคของ ตาเรกา เซโกเวีย และยุคสมัยใหม่ มุมมองและเทคนิคการเล่นกีตาร์ที่ผู้ทำวิจัยใช้เป็นการผสมผสานระหว่างพลังจากธรรมชาติและหลักปรัชญาของลัทธิเต๋า
dc.language.iso en
dc.publisher Chulalongkorn University
dc.relation.uri http://doi.org/10.58837/CHULA.THE.2017.249
dc.rights Chulalongkorn University
dc.title DOCTORAL MUSIC PERFORMANCE: TECHNIQUE AND EVOLUTION OF MODERN GUITAR PERFORMANCE
dc.title.alternative ดุษฎีนิพนธ์การแสดงดนตรี: เทคนิคและวิวัฒนาการการแสดงโมเดิร์นกีตาร์
dc.type Thesis
dc.degree.name Doctor of Fine and Applied Arts
dc.degree.level Doctoral Degree
dc.degree.discipline Fine and Applied Arts
dc.degree.grantor Chulalongkorn University
dc.email.advisor Tongsuang.I@Chula.ac.th,tongisra@bkk3.loxinfo.co.th
dc.identifier.DOI 10.58837/CHULA.THE.2017.249


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

  • Fine Arts - Theses [876]
    วิทยานิพนธ์ คณะศิลปกรรมศาสตร์

Show simple item record