dc.contributor.advisor |
ทัชชมัย ทองอุไร |
|
dc.contributor.author |
กรองกมล กรองทอง |
|
dc.contributor.other |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. คณะนิติศาสตร์ |
|
dc.coverage.spatial |
ไทย |
|
dc.coverage.spatial |
เกาหลี |
|
dc.date.accessioned |
2018-09-17T03:20:41Z |
|
dc.date.available |
2018-09-17T03:20:41Z |
|
dc.date.issued |
2560 |
|
dc.identifier.uri |
http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/60321 |
|
dc.description |
เอกัตศึกษา (ศศ.ม.)--จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2560 |
en_US |
dc.description.abstract |
การศึกษานี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาถึงสิทธิประโยชน์ของโครงการใช้บัตรเดบิตแทนเงินสดภายใต้ยุทธศาสตร์ National e-Payment ของประเทศไทยที่รัฐบาลมอบให้โดยเปรียบเทียบกับสิทธิประโยชน์ของสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จกับการนำระบบ Cash Receipt System (CRS) มาบันทึกข้อมูลการทำธุรกรรมการซื้อสินค้าและบริการด้วยบัตร รวมถึงให้สิทธิประโยชน์และออกมาตรการจูงใจสำหรับผู้เข้าร่วมโครงการทั้งผู้ซื้อสินค้าและร้านค้าที่เข้าร่วมระบบงาน CRS ทำให้กรมสรรพากรเกาหลีสามารถจัดเก็บภาษีจากธุรกรรมผ่านบัตรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากการศึกษาพบว่าสิทธิประโยชน์ของโครงการใช้บัตรเดบิตแทนเงินสดภายใต้ยุทธศาสตร์ National e-Payment ของประเทศไทยที่รัฐบาลมอบให้ยังมีประเด็นปัญหาที่สำคัญอยู่ 3 ประการ คือ การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษียังไม่จูงใจให้ประชาชนและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเข้าร่วมโครงการ การกำหนดระยะเวลาในการจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ให้ผู้เข้าร่วมโครงการ โดยมีระยะเวลาในช่วง 2-5 ปี ทำให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้รับประโยชน์ไม่เต็มที่ และระยะเวลาการให้สิทธิประโยชน์ของโครงการแจกโชคจากการใช้บัตรเดบิตทุกเดือนเป็นระยะเวลา 1 ปี เป็นการจูงใจผู้ประกอบการในระยะสั้น ซึ่งไม่เหมาะสมกับโครงการใช้บัตรเดบิตแทนเงินสดภายใต้ยุทธศาสตร์ National e-Payment ของประเทศไทยที่เพิ่งเป็นที่รู้จักในช่วง 2-3 ปี ซึ่งปัญหาทั้ง 3 ประการถือเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้โครงการใช้บัตรเดบิตในประเทศไทยยังไม่ได้รับความนิยม และไม่สามารถประสบความสำเร็จตามที่รัฐบาลคาดหวัง
เมื่อเปรียบเทียบกับสิทธิประโยชน์ของสาธารณรัฐเกาหลี พบว่ากรมสรรพากรเกาหลีให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ทั้งผู้ซื้อสินค้าที่ใช้จ่ายบัตรและผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการโดยก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้เข้าร่วมโครงการ สำหรับระยะเวลาการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสาธารณรัฐเกาหลีไม่ได้กำหนดระยะเวลาการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ผู้เข้าร่วมโครงการ และแม้ว่าสาธารณรัฐเกาหลีจะไม่มีการให้สิทธิประโยชน์แจกโชคจากการใช้บัตรเดบิตเช่นเดียวกับประเทศไทย แต่มีการให้เงินรางวัลแก่ผู้แจ้งชื่อร้านค้าที่ไม่ออกใบเสร็จรับเงิน ดังนั้น ประเทศไทยควรปรับเปลี่ยนการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีโดยมุ่งให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้ประโยชน์อย่างแท้จริง รวมถึงควรขยายระยะเวลาการให้สิทธิประโยชน์ เพื่อเป็นการสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการได้มากขึ้น
ผู้เขียนได้เสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปัญหาทั้ง 3 ประการ โดยผู้เขียนเห็นว่าวิธีการดังกล่าวมีความเหมาะสมและควรปรับปรุง สามารถประยุกต์และปรับใช้กับประเทศไทย ซึ่งจะทำให้โครงการใช้บัตรเดบิตในประเทศไทยสามารถเติบโตและเป็นที่รู้จักจากบุคคลทั่วไปและผู้ประกอบการธุรกิจได้มากขึ้น นอกจากนี้จะทำให้รัฐบาลไทยได้มาซึ่งฐานข้อมูลรายได้ของประชาชนและผู้ประกอบการครบถ้วนมากขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนานโยบายและผลักดันเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน |
en_US |
dc.language.iso |
th |
en_US |
dc.publisher |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en_US |
dc.relation.uri |
http://doi.org/10.58837/CHULA.IS.2017.39 |
|
dc.rights |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en_US |
dc.subject |
บัตรเดบิต -- ไทย |
en_US |
dc.subject |
การชำระเงิน -- ไทย |
en_US |
dc.subject |
การชำระเงิน -- เกาหลี |
en_US |
dc.subject |
การชำระเงิน -- แง่ยุทธศาสตร์ |
en_US |
dc.subject |
นโยบายเศรษฐกิจ -- ไทย |
en_US |
dc.title |
ปัญหาการดำเนินโครงการใช้บัตรเดบิตแทนเงินสด ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ National e-Payment ของประเทศไทย และแนวทางในการแก้ปัญหา |
en_US |
dc.type |
Independent Study |
en_US |
dc.degree.name |
ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต |
en_US |
dc.degree.level |
ปริญญาโท |
en_US |
dc.degree.discipline |
กฎหมายเศรษฐกิจ |
en_US |
dc.degree.grantor |
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย |
en_US |
dc.email.advisor |
Tashmai.R@Chula.ac.th |
|
dc.identifier.DOI |
10.58837/CHULA.IS.2017.39 |
|