Abstract:
งานวิจัยนี้ได้ศึกษาความสามารถในการทำความสะอาดได้ด้วยตนเองของผ้าฝ้ายที่ผ่านการตกแต่งด้วยไททาเนียโซลที่เตรียมด้วยสารตั้งต้นของ Titanium isopropoxide (TTIP) ที่ความเข้มข้นที่แตกต่างกันในช่วงระหว่าง 5-20% หลังจากนั้นนำผ้าฝ้ายมาจุ่มในไททาเนียโซลเป็นระยะเวลา 10 นาที แล้วนำผ้าไปบีบอัดด้วยลูกกลิ้งเพื่อควบคุม % pick-up ให้ได้ 80% แล้วนำผ้าที่ผ่านการตกแต่งแล้วมาอบด้วยความร้อน 2 ระบบ คือระบบอบด้วยความร้อนด้วยรังสียูวีที่พลังงาน 289 mj/cm จำนวน 5 รอบ และระบอบการอบด้วยความร้อนที่อุณหภูมิ 100°C เป็นระยะเวลา 5 นาที หลังจากนั้นนำผ้าฝ้ายที่ผ่านการตกแต่งไปศึกษาการทำความสะอาดได้ด้วยตนเองของผ้า ซึ่งจะทำการศึกษา 3 ด้าน คือ การสลายตัวของสิริแอคทีฟ การขจัดคราบกาแฟที่เปื้อน และการต้านทานเชื้อแบคทีเรีย รวมทั้งศึกษาสมบัติทางกายภาพทางด้านความเหลืองและความต้านแรงดึงที่คงเหลือ และเฟสของอนุภาคไททาเนียที่อยู่บนผ้าที่ผ่านการตกแต่งได้ทำการศึกษาด้วยเช่นกัน จากผลการทดสอบเฟสอนุภาคไททาเนียด้วยเครื่องเอ็กซ์เรย์ดิฟแฟรกชัน ผลปรากฏว่าเป็นพีคของผลึกอนาเทส และเมื่อนำผ้าที่ผ่านการตกแต่งมาส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์แบบส่องกราดก็พบอนุภาคเกาะอยู่บนเส้นใยของผ้าฝ้าย ส่วนผลของการทำความสะอาดได้ด้วยตนเองของผ้าที่ผ่านการตกแต่งด้วยไททาเนียโซลที่อบด้วยรังสียูวีหรืออบด้วยความร้อนแสดงการสลายตัวของสิรีแอคทีฟที่อยู่ในขั้นที่ดีมาก แต่สมบัติทางด้านการขจัดคราบกาแฟที่เปื้อนและสมบัติการต้านทานเชื้อแบคทีเรียของผ้าที่ผ่านการตกแต่งด้วยไททาเนียโซลได้ผลไม่ค่อยดีนัก แต่เมื่อนำผ้าที่ป่านการตกแต่งแล้วด้วยไททาเนียโซลไปทำการอบผนึกเพิ่มอีกครั้งที่สูงที่ 150°C เป็นเวลา 3 นาที กลับได้ผลการทดสอบการทำความสะอาดได้ด้วยตนเองทั้ง 2 ด้านดีขึ้น ซึ่งอาจจะบอกเป็นนัยได้ว่า การอบผนึกเพิ่มอาจจะมีผลกระทบต่อผลึกของอนุภาคไททาเนียที่แตกต่างออกไปจากของการที่ไม่มีการอบผนึกเพิ่ม และยังมีผลในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำความสะอาดได้ด้วยตนเองของผ้าให้ดีขึ้นได้ ส่วนค่าดัชนีความเหลืองและความต้านแรงดึงที่คงเหลือของผ้าที่ผ่านอบผนึกอีกครั้งจะแสดงผลที่ด้อยลงอีก