Abstract:
พม่ากำลังอยู่ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านจากสังคมที่มีรัฐเป็นผู้มีอิทธิพลครอบงำการกำหนดนโยบายทั้งหมด สู่สังคมที่กลุ่มผลประโยชน์ต่าง ๆ สามารถเข้ามามีส่วนในการกำหนดนโยบายมากขึ้น หนึ่งในเครือข่ายกระบวนการทางนโยบายที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ได้แก่กลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ที่เติบโตอย่างเข้มแข็งในสมัยรัฐบาลเผด็จการโดยมีบทบาทในฐานะเครื่องมือทางนโยบายของรัฐ และปัจจุบันกลายเป็นกลไกสำคัญในการปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศ โดยกลุ่มธุรกิจเหล่านี้ได้ปรับบทบาทไปตามบริบททางการเมืองที่เปลี่ยนไป โดยการขยายเครือข่ายความสัมพันธ์ไปยังกลุ่มทางการเมืองอื่น ๆ ดำเนินการขยายเครือข่ายธุรกิจร่วมกับทุนต่างชาติ ตลอดจนเข้ามามีส่วนในกระบวนการกำหนดนโยบายเองในเวทีการเมือง การปรับตัวดังกล่าวทำให้กลุ่มธุรกิจมีอิทธิพลในการกำหนดนโยบายเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจแบบเสรีนิยมสามารถขยายตัวในพม่าได้อย่างรวดเร็ว ความเปลี่ยนแปลงในกระบวนการเชิงนโยบายดังกล่าว ส่งผลโดยตรงต่อกระบวนการประชาธิปไตยในพม่า โดยกลุ่มธุรกิจเป็นตัวแสดงที่มีบทบาทสำคัญทั้งในฐานะของเครือข่ายเพื่อรักษาผลประโยชน์ของกลุ่มอำนาจเดิม ตลอดจนมีบทบาทในการผลักดันการขยายตัวของเสรีนิยม ที่จะช่วยเปลี่ยนผ่านสังคมสู่ภาวะทันสมัยที่จะเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประชาธิปไตยในอนาคต อย่างไรก็ดี การขยายตัวของเสรีนิยมในพม่ามีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดความไม่เท่าเทียมของการพัฒนาระหว่างคนกลุ่มต่าง ๆ ในประเทศมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลเสียต่อการพัฒนาประชาธิปไตยในระยะยาวได้เช่นกัน